เอกชนแปลกใจบวกเสียดาย “ปานปรีย์” ลาออกทั้งที่มีผลงาน นำไทยฝ่าปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เปิดโผล่าสุด “อดีตทูต” นั่งเก้าอี้ รมต.ต่างประเทศแทน
วันที่ 29 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศและทุกตำแหน่ง ทำให้เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องหาผู้เหมาะสมมาทำงานแทนเพื่อสานต่อภารกิจกระทรวงการต่างประเทศที่เหลือเพียงเก้าอี้เดียว ปราศจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
- ออมสิน จัดโปรฯเด็ดเงินฝากดอกเบี้ย 21% สลาก 1 ปี แจกทอง 10 กิโล
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลาออกของนายปานปรีย์ได้สร้างความประหลาดใจให้กับทางภาคเอกชน เพราะที่ผ่านมานับว่าเป็นรัฐมนตรีที่มีผลงานที่โดดเด่น และขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ปัญหาทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ เรื่องนี้ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
แหล่งข่าวเอกชนกล่าวว่า ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าผู้ที่จะมารับตำแหน่งสำคัญนี้มีโอกาสจะเป็นนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายปานปรีย์) หรือทูตปู ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมงานพิธีรับเสด็จ สมเด็จพระราชาธิบดีฮาจี ฮัซซานัล บลเกียะฮ์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม ในโอกาสเสด็จฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (29 เม.ย. 67) และเคยมีประสบการณ์ทำงานในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรและอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรด้วย
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ข่าวการลาออกของนายปานปรีย์แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยไม่มีใครทราบมาก่อน แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาในช่วงสั้น เพราะข่าวดังกล่าวทำให้หลายคนประหลาดใจถึงการตัดสินใจครั้งนี้
แต่เข้าใจว่าทางท่านนายกรัฐมนตรีจะได้พิจารณาเลือกตัวบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติแล้วก็เป็นผู้ที่มีความเข้าใจในเรื่องของการต่างประเทศ และสามารถสานต่องานได้
“กรณีชื่อของท่านผู้ที่ปรากฏออกมาเป็นข่าวทางท่านทูตปู ซึ่งก็นับว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องของงานต่างประเทศเคย เป็นเอกอัครราชทูตประจำอยู่หลายประเทศ เช่น London สหราชอาณาจักร แล้วท่านก็ยังเป็นทีมงานของทางท่านนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว”
รายงานข่าวระบุว่า นอกจากชื่อนายมาริษแล้ว ทางภาคเอกชนยังได้มองถึงชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมอีกชื่อคือ นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ อดีตเอกอัครราชทูต กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งเกษียณราชการออกไปเพียงแค่ปีเดียว และอยู่ในแวดวงที่ทางภาคเอกชนมีความคุ้นเคยเช่นกัน