ราคาน้ำมันดิบ (9 พ.ค. 67) ปรับเพิ่ม หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับลดมากกว่าคาดการณ์

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับลดลงมากกว่าคาดการณ์

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 พ.ค. 67 ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับที่ 460 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 8 พ.ค. 2567 อยู่ที่ 78.99 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.61 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 83.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.42 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ตลาดคาดการณ์ว่าการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย. 67 มีแนวโน้มว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะยังคงลดกำลังการผลิตต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดยังคงอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามการประชุมอย่างใกล้ชิดเนื่องจากตลาดยังมีความไม่แน่นอน

นักวิเคราะห์มีการปรับลดความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันลง จากความหวังในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ณ กรุงไคโร โดยมีประเทศอียิปต์และกาตาร์ร่วมกันเป็นตัวกลางในการเจรจา แม้ว่าล่าสุดจะยังไม่มีความคืบหน้า

Advertisment

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียยังคงชะลอตัว และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาร์เรล สะท้อนถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ สร้างความกดดันต่อราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในจีนพร้อมกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในช่วง เม.ย.-พ.ค. 67 นอกจากนั้นแล้วความต้องการใช้น้ำมันในประเทศจีนที่อ่อนแอส่งผลให้จีนมีแผนการส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. 67