
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงเล็กน้อย เหตุตลาดกังวลเศรษฐกิจจีนกดดันอุปสงค์ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีหวังฟื้นตัวหลังลดดอกเบี้ย
วันที่ 23 กันยายน 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (LPR) ระยะ 1 ปี ที่ระดับ 3.35% โดยอัตราดอกเบี้ย LPR ระยะ 1 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับสินเชื่อส่วนใหญ่ในจีน สร้างความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในจีน หลังจากที่ทางการจีนได้รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายรายการที่ชะลอตัวลง ทำให้ตลาดเกิดความกังวลว่าอุปสงค์ภายในจีนจะอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 20 ก.ย. 2567 อยู่ที่ 71.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.03 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 74.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.39 เหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยธนาคารกลางสหรัฐคาดการณ์ว่าจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีก 0.5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และปรับลด 1%, 0.5% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้น
สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังอิสราเอลประกาศว่าได้สังหารผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในการโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน สร้างความกังวลแก่หลายฝ่ายว่าความขัดแย้งอาจขยายวงกว้าง
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าราคาได้รับแรงกดดันจากการที่ตลาดคาดการณ์ว่าน้ำมันเบนซินจากตะวันออกกลางจะถูกส่งมายังเอเชียเพิ่มขึ้น ทำให้อุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงใกล้เคียงกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนประกาศโควตาส่งออกน้ำมันเพิ่มเติมสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้อุปทานในตลาดปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดีเซลจะปรับตัวดีขึ้นในเดือน ต.ค. 67 จากการที่หลายประเทศเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว