กรมเจรจาการค้าฯ เตรียมพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพอาเซียนปี’62 เร่งทำเอฟทีเอ3ปท.

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพอาเซียนปี’62 – เร่งทำเอฟทีเอ 3 ประเทศ ปากีสถาน ตุรกีและบังคลาเทศ หวังขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน เดินหน้าเตรียมการใช้ประโยชน์เอฟทีเออาเซียน-ฮ่องกง 1 ม.ค.62 – ลงพื้นที่ช่วยผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากการค้าเสรี ทั้งโคนม ชา ลำไย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายไทยจะมีการพิจารณากำหนดแนวคิดในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียนในปี 2562 ในฐานะที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพและประธานอาเซียน โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้มีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อกำหนดประเด็นด้านเศรษฐกิจแล้ว โดยมีประเด็นที่จะผลักดัน เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น

สำหรับแผนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 ว่า กรมฯ เจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา 3 ประเทศ คือ ปากีสถาน ตุรกี และบังคลาเทศ ให้สำเร็จโดยเร็ว เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทย เพราะทั้ง 3 ประเทศถือเป็นตลาดสำคัญที่ไทยต้องการที่จะเปิดตลาด และภาคเอกชนก็เห็นด้วยกับการจัดทำ FTA กับทั้ง 3 ประเทศ

สำหรับ FTA ไทย-ปากีสถาน จะมีการเร่งสรุปผลการเจรจาเปิดเสรีการค้าสินค้าระหว่างไทย-ปากีสถาน และจัดทำร่างกรอบการเจรจาด้านการค้าบริการและการลงทุนภายใต้ เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วน FTA ไทย-ตุรกี จะเร่งการเจรจาเปิดเสรีการค้าสินค้าให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว และ FTA ไทย-ศรีลังกา จะผลักดันให้มีการลงนาม MOU ว่าด้วยการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับศรีลังกา และเตรียมเปิดการเจรจา FTA ซึ่งคาดว่าจะมีการเจรจารอบแรกในเดือนก.ค.2561

สำหรับกรอบการค้าเสรีอื่นๆ จะดำเนินกระบวนการภายในประเทศเพื่อให้ FTA อาเซียน-ฮ่องกง มีผลใช้บังคับได้ทันวันที่ 1 ม.ค.2562 และการลงนามพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันเปิดตลาดบริการชุดที่ 10 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการอาเซียน โดยจะมีการลงนามในเดือนส.ค.2561 รวมทั้งจะเร่งสรุปผลการเจรจาสาระสำคัญของความตกลง RCEP ให้มากที่สุด และรายงานสถานะต่อผู้นำภายในปลายปี 2561 โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการเจรจา RCEP ครั้งที่ 23 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 17-27 ก.ค.2561 ที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนจะเสริมสร้างความรู้ การเตรียมความพร้อม และการใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้าให้กับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง โดยจะผลักดันให้ผู้ประกอบการโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศโดยใช้ประโยชน์จากการลดภาษีภายใต้ FTA การลงพื้นที่แหล่งปลูกชาที่เชียงรายในวันที่ 26-27 มิ.ย.2561 การประชุมและเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษระหว่างวันที่ 12-13 ก.ค.2561 ที่เชียงราย และลงพื้นที่แหล่งปลูกลำไยระหว่างวันที่ 15-16 ส.ค.2561 ที่ใหม่ เป็นต้น

ส่วนประเด็นอื่นๆ จะจัดการประชุมและสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเกี่ยวกับความตกลง CPTPP อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการสัมมนาใหญ่ในช่วงเดือนก.ย.2561 และจะเดินหน้าแก้ไขอุปสรรคทางการค้า เช่น การกดดันเวียดนามให้ยกเลิกมาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์อย่างเข้มข้นทั้งในเวทีเจรจาสองฝ่าย อาเซียน และ WTO รวมทั้งเตรียมพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงยอมรับร่วม (MRA) มาตรฐานยานยนต์ไทย-เวียดนาม และยกระดับกดดันอินโดนีเซียให้ยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้าพืชสวน ซึ่งสินค้าเกษตรที่ไทยได้รับผลกระทบมี 3 รายการ คือ ลำไย ทุเรียน และหอมแดง โดยไทยได้หยิบยกข้อร้องเรียนนี้ในทุกระดับ และเตรียมมาตรการเพื่อต่อสู้กับการใช้มาตรการที่ไม่เป็นธรรมด้วย