ด่วน ! ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท เริ่มรอบแรก 28 มี.ค. นี้

ราคาน้ำมัน ปั๊มน้ำมัน น้ำมันลดราคา

ข่าวดี ! กบน. ประกาศลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร ของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ เริ่มปรับ 2 ระยะ รอบแรกวันที่ 28 มีนาคมนี้ และรอบ 2 วันที่ 4 เมษายน 2568 ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร  ชี้สถานะกองทุนน้ำมันดีขึ้น ติดลบเหลือ 75,945 ล้านบาท ระบุเร่งหาช่องลดค่าไฟงวดหน้า (พ.ค.-ส.ค.)  ยังพอมีเวลา ส่วนตัวเลขยังพูดไม่ได้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบน.ได้ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางดูแลราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้สอดรับกับสถานการณ์และความเหมาะสม โดยพิจารณาจากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง และสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เริ่มมีรายรับเพิ่มขึ้น

ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงสำหรับกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงรวม 1 บาทต่อลิตร ซึ่งการปรับลดราคาดังกล่าวจะดำเนินการเป็น 2 ระยะ ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 28 มีนาคม 2568 และครั้งที่ 2 วันที่ 4 เมษายน 2568 เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน

“เราดูสถานะกองทุนเป็นหลัก วันนี้เราดูแล้วลดได้ 1 บาท ตราบใดที่ยังไม่มีเหตุการณ์มากระทบ ก็จะลดต่อลงไปเรื่อย ๆ ผู้ค้าน้ำมันได้ลงทุนซื้อน้ำมันไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าเราประกาศลดทีเดียว 1 บาทก็กระทบกับผู้ค้าน้ำมันในระดับหนึ่ง เราเลยลด 2 ครั้งก็จะลดผลกระทบตรงนี้ได้และทำให้ไม่มีประเด็นให้มาโต้แย้งมากมาย ผมเลยเห็นชอบให้ลด 2 ระยะก่อนสงกรานต์” นายพีระพันธุ์กล่าว

การปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซิน-ดีเซลครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะกลุ่มดีเซล คิดเป็น 2 ใน 3 ของปริมาณการใช้น้ำมันทั้งหมด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระตุ้นการเดินทาง เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์

ADVERTISMENT

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานถึงสถานการณ์และฐานะของกองทุนน้ำมันในช่วงต้นปี (มกราคม 2568-วันที่ 23 มีนาคม 2568) พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบดูไบช่วงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันมีรายรับเฉลี่ยกว่า 8,000 ล้านบาท/เดือน ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันจากเดิมเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 กองทุนติดลบอยู่ที่ 75,945 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 29,009 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,936 ล้านบาท) ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันปรับลดลง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 เหลือติดลบ 60,052 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 14,063 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,989 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม สถานะกองทุนน้ำมันยังมีแนวโน้มที่ดี แม้ยังมีหนี้เงินกู้ที่ดำเนินการกู้ยืมจากสถาบันการเงินประมาณ 80,000 ล้านบาท หนี้ดังกล่าวก็จะพยายามดำเนินการชดใช้ แต่ก็พยายามดูแลค่าครองชีพของประชาชนไม่ให้ประชาชนขาดทุน

ADVERTISMENT

ส่วนการพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) นั้น คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ตรึงราคา LPG ให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2568 ซึ่งในงวดเมษายน-มิถุนายน 2568 นั้นจะมีการประชุม กบง.เพื่อพิจารณาในช่วงปลายเดือนมีนาคม หรือต้นเดือนเมษายนนี้ แต่คาดว่าจะยังคงตรึงไว้ที่ประมาณ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม

นายพีระพันธุ์ยังกล่าวอีกว่า การพิจารณาค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 2568 นั้นกำลังพิจารณาให้เหมาะสม ปรับลดเท่าที่จะสามารถทำได้

“กำลังพยายามลดลงมาจาก 4.15 บาทต่อหน่วย พยายามเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างราคาค่าไฟ งวดหน้าพยายามปรับลดลงให้ ผมทำงานทุกวัน ทุกเรื่อง แต่จะลดกี่สตางค์ยังพูดไม่ได้ ยังมีเวลาอยู่”

ขณะที่ความคืบหน้าร่างกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และร่างกฎหมายสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคง หรือ Strategic Petroleum Reserve (SPR) ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบความถูกต้อง ความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ