เอกชน ชี้วิกฤตข้าวไทยปี”62 ผลผลิตนาปีหด-ส่งออกเดี้ยง

ภัยธรรมชาติทุบข้าวนาปีหด 3% ดันราคาตลาดสูงกว่าราคาประกันตันละ 1,000 บาท เอกชนเตือนชาวนาระวัง 3 สารพิษตกค้างกระทบซ้ำ บาทแข็ง-คุณภาพข้าว ปี”62 ส่งออกแค่ 8 ล้านตัน

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่ติดตามประเมินผลผลิตข้าวนาปีปีการผลิต 2562/2563 เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ปีนี้คาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกนาปีจะมีปริมาณ 12.83 ล้านตัน ลดลง 3.06% จากปีก่อนที่มีปริมาณ 13.24 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 8.20 ล้านตัน ลดลง 1.01% ข้าวเหนียว 4.62 ล้านตัน

ลดลง 6.49% จากภาวะภัยแล้งและน้ำท่วมทำให้พื้นที่ปลูกข้าวสำคัญเสียหาย โดยขณะนี้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยตันละ 15,000-16,000 บาท สูงกว่าราคาประกันรายได้ตันละ 15,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 13,000-18,000 บาทจากราคาประกันรายได้ตันละ 12,000 บาท พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมทางสมาคมแจ้งเตือนเกษตรกรเกี่ยวกับการใช้ 3 สารเคมีอันตราย ทั้งพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ตกค้างในผลผลิต หากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือเกินมาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกไปตลาดสหรัฐและแคนาดา ที่มีปริมาณราว 500,000 ตันและอาจลุกลามต่อเนื่องไปยังตลาดยุโรป

“ส่งออกข้าวไทยช่วง 9 เดือนปีนี้มีปริมาณ 5.9 ล้านตัน ลดลง 5.9% มูลค่า 99,979 ล้านบาท ลดลง 24.6% น่าห่วงมากหากภายใน 3 ปี ไทยไม่พัฒนาพันธุ์ข้าวชนิดใหม่อาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้เวียดนาม กัมพูชาพัฒนาพันธุ์และคุณภาพข้าวอย่างต่อเนื่อง”


นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยในปีนี้จะมีปริมาณ 8 ล้านตันจากปีก่อนที่ได้ 11 ล้านตัน ผลจากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งตันละ 60-70 เหรียญสหรัฐ อาทิ ข้าวขาว 5% ไทยตันละ 424 เหรียญสหรัฐ เวียดนามตันละ 350 เหรียญสหรัฐ อินเดียตันละ 360 เหรียญสหรัฐ และไทยยังต้องแข่งกับจีน ที่ขายสต๊อกข้าวเก่าไปแอฟริกาปีนี้ถึง 3 ล้านตัน และจะเพิ่มเป็น 4 ล้านตันในปีหน้าด้วย