หอการค้าเปิด 10 ธุรกิจดาวรุ่งปี’63 ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม-อีคอมเมิร์ซมาแรง ส่วนร้านเช่าหนังสือ แชมป์ดาวร่วงปีหน้า

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลวิจัย 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งและธุรกิจดาวร่วง ปี 63 ว่า ธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 1 ในปี 63 คือ ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางทางด้านอิเล็กทรอนิกส์) เช่น ช้อปปี้, ลาซาด้า, ไลน์แมน, แกร็บฟู้ด เป็นต้น รองลงมาเป็น ธุรกิจอีคอมเมิรซ์และธุรกิจเทคโนโลยีและสารสนเทศและอุปกรณ์ รวมถึงผู้ให้บริการโครงการที่มีคะแนนเท่ากัน, ธุรกิจเกมส์ ธุรกิจพัฒนาแอปพลิเคชัน, ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ ที่รับอานิสงส์การขยายตัวของธุรกิจออนไลน์, เป็นธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม ที่มีคะแนนเท่ากัน, ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจบนสตรีตฟู้ด, ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุและธุรกิจฟินเทค การชำระเงินผ่านเทคโนโลยี, ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจที่ปรึกษากฎหมาย บัญชี และสุดท้าย เป็นธุรกิจความเชื่อ ธุรกิจเกี่ยวด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจเครื่องสำอาง

ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจแพลตฟอร์มมาแรงสุดจากในปี 62 ยังไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจดาวรุ่ง เนื่องจาก พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงและหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น รวมถึงความเคยชินกับการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รวมถึงมีความสะดวกสบายในชีวิตของประชาชน และกระแสการพัฒนาแพลตฟอร์มทั่วโลก ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าผู้บริโภคได้ตรงจุด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าธุรกิจแพลตฟอร์มอาจมีความเสี่ยงในด้านการแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากคู่แข่งในและต่างประเทศ, ความไม่ชัดเจนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และด้านความปลอดภัยหรือการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

ส่วนธุรกิจดาวรุ่งที่โดดเด่น เช่น ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต มาจากการยกเลิกแอลทีเอฟ ทำให้เกิดโอการในการออมเพื่อลดหย่อนภาษีผ่านประกันแทน, ความต้องการซื้อประกันภัยสำหรับธุรกิจมากขึ้นเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงต่อบริษัทและครัวเรือน, ประชาชนให้ความสำคัญในการออมระยะยาวมากขึ้นและประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้มีการวางแผนทางการเงินมากเช่นกัน ขณะที่ธุรกิจบนสตรีตฟู้ด ก็ยังเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศต่อเนื่อง ที่สำคัญรัฐบาลและภาคเอกชนยังมีนโยบายสนับสนุนการเปิดถนนคนเดินเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว และเชื่อเสียงของประเทศด้านสตรีตฟู้ด ค่อนเข้างมีชื่อเสียงในระดับโลก

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจความเชื่อ ซึ่งในปี 62 ไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจดาวรุ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีคนจำนวนมากต้องการหาที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจทั้งด้านการงาน การเงิน ความรัก และความศรัทธา ประกอบกับความเชื่อเรื่องของเครื่องรางของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่คู่กับอารยธรรมมาตลอดและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ, การต้องการเสริมบารมี และที่สำคัญลูกค้าบางกลุ่มพร้อมที่จ่ายในทุกราคาเพื่อสิ่งที่ตนเองเชื่อ เป็นต้น

สำหรับ 10 อันดับธุรกิจร่วงปี 63 ประกอบด้วย ธุรกิจเช่าหนังสือ มาเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและเครื่องโทรสาร, ธุรกิจร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต, ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร, ธุรกิจหัตถกรรมและเฟอร์นิเจอร์ไม้, ธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม, ธุรกิจคนกลาง, ธุรกิจอินเทอร์เน็ตประเภทฮาร์ดดิสไดร์, ธุรกิจดั้งเดิมไม่มีการดีไซน์และใช้แรงงานมาก เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น และ ธุรกิจร้านถ่ายรูป โดยธุรกิจร่วงเหล่านี้ผู้ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วต้องเร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน


นางเสาวณีย์กล่าวว่า ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจยังได้มีการศึกษาธุรกิจที่มีความเสี่ยงในปี 63 แต่ยังไม่ถึงกับเป็นธุรกิจดาวร่วง คือ ธุรกิจร้านกาแฟ ที่ทำเลไม่ดี ไม่มีแฟรนไชส์ และขนาดเล็ก รวมถึงธุรกิจร้านชานมไข่มุก ที่ทำทำเลไม่ดี เพราะปัจจุบันมีร้านกาแฟและชานมไข่มุกเปิดใหม่จำนวนมาก และที่สำคัญมีการแข่งขันในการตัดราคากันด้วย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ธุรกิจเครื่องสำอาง และอาหารเสริม ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ทำเลไม่ดี และธุรกิจเบเกอรี่และร้านอาหารที่เพิ่งเปิด และมีขนาดเล็ก