
สมาคมฯวอนรัฐทบทวนมาตรการช่วยเหลือ จากปัญหาโควิด-19 ก่อนคนตกงานร่วมแสนราย จากรายได้ไม่มี ผู้นำเข้าลดสั่งซื้อสินค้า
นายกิตติศักดิ์ อุดมแดงอร่าม นายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกทำให้ผู้นำเข้าหลายประเทศชะลอนำเข้า ส่งผลกระทบต่อรายได้ จึงทำให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องซึ่งจะส่งผลกระทบจนทำให้ต้องปิดโรงงานในเร็วๆ นี้ ทำให้พนักงาน 3-4 แสนคนต้องตกงาน
ดังนั้น สมาคมฯจึงขอให้ภาครัฐ ทบทวนมาตรการให้ความช่วยเหลือกับภาคเอกชนให้ทั่วถึง ข้อ 1. ในเรื่องของเงินประกันสังคมและที่ภาครัฐจะเยียวยาให้เฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในข่ายถูกสั่งให้ปิดสถานประกอบการแต่โรงงานเครื่องประดับเงินไม่อยู่ในข่ายที่ภาครัฐสั่งให้ปิดจึงทำให้ผู้ประกอบการไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแม้ว่าภาครัฐไม่สั่งให้ปิดโรงงานเครื่องประดับเงินแต่เนื่องจากไม่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาก็ทำให้ไม่มีรายได้เข้ามาโรงงานก็ต้องปิดโดยปริยาย จึงขอให้ภาครัฐทบทวนเพื่อให้ผู้ประกอบการโรงงานเครื่องประดับเงินได้รับความช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วย
2.มาตรการออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟท์ โลน) ในความเป็นจริงทางสถาบันการเงินกลับมองว่าผู้ประกอบการเครื่องประดับเงินมีศักยภาพการชำระหนี้คืนต่ำทำให้ไม่ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการจนเป็นสาเหตุทำให้ขาดสภาพคล่องจนถึงขั้นต้องปิดโรงงานในเร็วๆนี้จึงอยากให้ภาครัฐทบทวนและมองเห็นความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเหล่านี้ด้วยเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไป
3.ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาเยียวยาและชดเชยรายได้ ที่หายไปบางส่วนเหมือนในต่างประเทศให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น. มีการให้เงินชดเชยรายได้ลูกจ้างพนักงานที่ถูกลดเงินเดือนบางส่วน อย่างทั่วถึงซึ่งจะทำให้ทั้งโรงงานและลูกจ้างดำเนินธุรกิจต่อไปได้
อย่างไรก็ดี จากเกิดการระบาดของโควิด-19 มั่นใจว่าปีนี้ในส่วนของเครื่องประดับเงินไทยจะติดลบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของเครื่องประดับเงินไทยโดยในปีที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกานำเข้าสินค้าเครื่องประดับเงินไทยมูลค่า 50,000 ล้านบาทเติบโตจากปี 2561 ประมาณ 10%