“สมคิด” เตรียมเปิดแผนฟื้นฟู มิ.ย. นี้หลังจบโควิด ดัน Local Economy จ้างงานคนในพื้นที่

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการกระชุมหารือ มาตรการให้ความช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ว่า หลังจากหารือกับภาคเอกชน ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอี ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กระทรวงอุตสาหกรรม วันนี้ (22 เม.ย. 2563) ว่า

ตนได้รับทราบข้อเสนอมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในระยะวิกฤตจากผลกระทบ COVID-19 และกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ ตามที่เอกชนขอมา อย่าง มาตรการภาษี ที่ขอให้กรมสรรพกรยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่ SME 3 ปีทุกธุรกิจ (ปีภาษี ‪2563-2565‬) โดยจะต้องเข้าระบบ E-Filling เป็นต้น ให้กระทรวงการคลังเร่งพิจารณา

อย่างไรก็ตาม จะต้องให้ทางกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับภาคธุรกิจในอนาคต และต้องเริ่มจัดทำโครงการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) เพื่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ และไทยจะต้องพึ่งพาตนเองให้มากขึ้น หรือระเบิดจากข้างในโดยสร้างความเข้มแข็งในประเทศ

“ไทยจะเป็นที่แรกๆ ของโลกที่มีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจบโควิด และใช้เรื่องของ Local Economy เพราะไทยมียอดติดเชื้อลดลงมาก เชื่อว่า มิ.ย. หรือ พ.ค. 2563 จะเริ่มเห็นแผนนี้ออกมาชัดเจน”

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ จะของบ 10,000 ล้านบาท ที่อยู่ภายใต้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000 ล้านบาทของรัฐบาล ที่จะนำออกมากระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจบวิกฤติโควิด-19

โดยจะกำหนดโครงการขึ้นมาหลายส่วน ทั้งการช่วยเหลือ SMEs การช่วยภัยแล้ง รวมถึงการจ้างงานในพื้นที่ ภายใต้นโยบาย Local Economy เช่น ของบ 340 ล้านบาท เพื่อจ้างเกษตรกรชาวไร่อ้อยและเครือข่าย 5,000 ราย เข้าไปปรับพื้นที่ในการเตรียมทำเกษตร จ้างงานที่ถูกเลิกจ้าง 500 คน ในพื้นที่รอบเหมืองแร่เพื่อช่วยดำเนินโครงการจัดหาแหล่งน้ำในขุมเหมืองแก้ภัยแล้ง