ย้อนรอยมาตรการ ‘ทรัมป์’ แกง ส่งออกไทย…เหตุผลที่ไทยต้องลุ้นศึกเลือกตั้งสหรัฐ

นับถอยหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ ‪3 พฤศจิกายน 2563‬ คู่ชิงระหว่างนายโดนัล ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนาย โจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตขับเคี่ยวมาถึงโค้งสุดท้าย ทั้งขึ้นเวทีดีเบต และตะลุยหาเสียงรัฐต่างๆต่อเนื่อง

แต่ผลปรากฎว่าคะแนนนิยมในตัวของไบเดนยังเหนือทรัมป์ จากการที่ไบเดนชูนโยบายหลักหลายด้าน โดยเฉพาะการสานนโยบายเดิมในสมัยของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอมา ซึ่งขณะนั้นเค้าเป็นรองประธานาธิบดีถึง 2 สมัย

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คะแนนนิยมในตัวทรัมป์ลดลงเป็นผลจากวิกฤตโควิดที่ชาวอเมริกัน ติดเชื้อกว่า 9 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 2 แสนคน สะท้อนว่ายังไม่สามารถรับมือวิกฤติได้รวมถึงข่าวการเลี่ยงภาษีของทรัมป์ และการเดินขบวนของชาวอเมริกันเรื่องตำรวจฆ่าชายผิวสีจอร์จ ฟอยด์ ก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นชนวนเหตุทำให้ความนิยมในตัวทรัมป์แผ่วลงไป

แต่ผลงานจากนโยบายทรัมป์ตลอด 4 ปี ทั้งการแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ โดยการสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตโดยสหรัฐ ตามนโยบาย AMERICAN FIRST เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและจ้างงาน

นำไปสู่การเปิด สงครามการค้า (Trade War) และสงครามเทคโนโลยี (Tech War) กับจีน รวมถึงการลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ จะเป็นแรงหนุนทำให้ทรัมป์สามารถยืนหนึ่งในตำแหน่งนี้ต่อไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาวอเมริกันในอีก 3 วันข้างหน้า

ย้อนรอยความแสบ “ทรัมป์”

ย้อนกลับไปในในช่วงที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งไม่เพียงทำสงครามการค้ากับจีน แต่ยังได้ออกมาตรการทางการค้ามากมายกับสินค้าไทย อาทิ การใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) กับเครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ และกำหนดโควตานำเข้าสินค้าโซลาร์เซลกับไทยเมื่อเดือนมกราคม 2561 เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในตามนโยบาย American First

ทั้งยัง ได้ใช้มาตรการตอบโตการทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าที่นอน ล้อยาง และการใช้มาตรา 232 ตามกฎหมาย Trade Expansion Act ปี 1962 กับสินค้าที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงสหรัฐฯ ซึ่งมีทั้งกลุ่มเหล็กและชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย รวมถึงการตัดสิทธิจีเอสพีสินค้าไทย  573 รายการ เมื่อ 25 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมาด้วย

9 เดือนส่งออกตลาดสหรัฐ พุ่ง 7%

อย่างไรก็ตาม “สหรัฐฯ “ ถือเป็นตลาดส่งออกหลักของไทยครองส่วนแบ่ง 14.7% ของภาพรวมการส่งออกไทยทั้งหมด

ล่าสุดในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ไทยส่งออกไปสหรัฐมูลค่า 25,358 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นตลาดส่งออกเพียง 1 ใน 3 แห่งที่เติบโตสวนทางกับภาพรวมการส่งออกไทยที่ยังคงติดลบ 7.33%

อีกทั้งสหรัฐฯ ยังประเทศให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร (GSP) กับไทย 2,672 รายการ และยังอยู่ระหว่างการทบทวนล่าสุดกรมการค้าต่างประเทศ จะรายงานประจำปี ซึ่งคาดว่าผลการพิจารณาการตัดสิทธิ GSP ไทย-สหรัฐฯ จะเกิดขึ้นภายใน 31 ตุลาคม 2563 นี้

เปิดโผ 10 สินค้าส่งออกเพิ่ม

จากการตรวจสอบรายงานในช่วง 9 เดือนแรก 2563 สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทยไปในตลาดสหรัฐ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ มูลค่า 4,995 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 25.20 % ผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 2,743 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.53 % ยานพาหนะอื่นๆและส่วนประกอบ มูลค่า 1,135 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10,648 % ถือว่าเป็นสินค้าที่มีอัตราเติบโตมากที่สุด

ถัดมาคือ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด มูลค่า 845 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 187 %

อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป มูลค่า 843 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 24 % เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ มูลค่า 786 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 6.87 % เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ มูลค่า 786 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 40 %

ส่วนอัญมณีและเครื่องประดับ มูลค่า 719 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 23 % และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล มูลค่า 647 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4 %

หลังจากนี้ไทยจะต้องลุ้นว่าผลการเลือกตั้งสหรัฐ จะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ และการส่งออกของไทยในอนาคตด้วย