อ.ต.ก.พร้อมดันองค์กรกลับมาทำกำไรให้ได้ หลังขาดทุนสะสม 880 ล้านบาท ลั่นปี 2565 จะล้างหนี้สำเร็จ จากแผนพัฒนาตลาดทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ โครงการมินิ อ.ต.ก.
ประกอบกับอานิสงส์จากโครงการคนละครึ่ง กระตุ้นยอดใช้จ่าย เผยปี 2564 แม้ นทท.จีนเป็นศูนย์ แต่ด้วยมาตรการป้องกันการระบาดของโควิดจะทำให้ อ.ต.ก.กลับมาคึกคัก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
นายปณิธาน มีไชยโย รองผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. เปิดเผยว่า การจัดหารายได้ของ อ.ต.ก. ที่ผ่านมาพบว่ามีการขาดทุนสะสม 3,000 ล้านบาท
ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2516 เนื่องจากการดำเนินงานเพื่อสนองนโยบายนักการเมือง อีกทั้งต้องดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาทิ ซื้อปุ๋ย รับจำนำสินค้า
โดยไม่ได้เป็นก่อหนี้ที่เกิดจากการดำเนินงานของ อ.ต.ก.เอง แต่เมื่อ 2557 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีนโยบายจากรัฐบาลที่ต้องดำเนินการจากโครงการต่าง ๆ ของรัฐ ส่งผลให้ อ.ต.ก.ขาดทุนสะสมคงเหลืออยู่ที่ 880 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2562 พบว่า อ.ต.ก.เริ่มมีผลขาดทุนลดลงคงเหลือประมาณ 181 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัญหาจากค่าเช่าพื้นที่แพง เนื่องจากเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
และราคาค่าเช่าเพิ่มขึ้น 10% ทุกปี ซึ่งได้มีการหารือกับเจ้าของพื้นที่เพื่อหาทางออกเรื่องนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป จนกระทั่งในปี 2563 แม้ อ.ต.ก.ต้องเผชิญปัญหาจากการระบาดโควิด-19 ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ได้ปรับช่องทางการขายสินค้าเกษตรผ่านทางออนไลน์และสินค้าอื่น ๆ ในการเพิ่มรายได้จากการซื้อขายสินค้า
โดย อ.ต.ก.ออกสินค้าแบรนด์ อ.ต.ก.พรีเมี่ยม พร้อมควบคุมค่าใช้จ่ายในองค์กร ส่งผลให้ อ.ต.ก.ยังมีกำไร เช่น การจำหน่ายสินค้าให้กับเรือนจำ ในปีที่ผ่านมา มูลค่า 80 ล้านบาท มีผลกำไร 3% และในปีนี้คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น และจะขยายโครงการจำหน่ายสินค้าไปช่องทางอื่น อาทิ โรงเรียน โรงพยาบาล
นายปณิธานกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ อ.ต.ก.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อเชื่อมโครงการมินิ อ.ต.ก. กับร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านทุกตำบล กว่า 20,000 ร้านค้า โดยจะนำสินค้าที่มีคุณภาพเข้ามาจำหน่าย
ส่งผลให้อ.ต.ก.เริ่มขาดทุนลดลง 70 ล้านบาท หรือเหลือยอดขาดทุนสะสมเพียง 111 ล้านบาท ส่วนในปี 2564 คาดว่าจะลดการขาดทุนให้เหลือประมาณ 66.4 ล้านบาทได้ และตั้งเป้าหมายในปี 2565 อ.ต.ก.จะล้างหนี้ที่เหลือทั้งหมดและกลับมามีกำไรอีกครั้ง
“ปี’63 เจอโควิด นักท่องเที่ยวจีนแทบเป็นศูนย์ จนถึงปัจจุบัน อ.ต.ก.หันมาหารายได้เชิงพาณิชย์ ควบคุมค่าใช้จ่ายในองค์กรเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีการลดจำนวนพนักงานลง และปกติ อ.ต.ก.มีรายได้รวมต่อปีอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านบาท
รายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งอาหารให้เรือนจำ ซึ่งรายได้ส่วนนี้มีมากถึง 1,200 ล้านบาท และโครงการคนละครึ่ง ยังช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชนอย่างมาก เพราะฉะนั้น มั่นใจว่าจะลดการขาดทุนได้ตั้งแต่ในปี 2564 จนหมด”
ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการในปัจจุบันจะน้อยลง แต่ยังพบว่ายังมีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ประมาณ 5-8 พันคนต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าของ อ.ต.ก. เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ ได้ทำความสะอาดทุก 15 วัน เชื่อจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
นอกจากนี้ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ อ.ต.ก.เตรียมจัดกิจกรรมเนื่องในเทศกาลตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ จึงได้เตรียมมอบของขวัญเป็นข้าวอินทรีย์ ครึ่งกิโลกรัม จำนวน 1,000 ชิ้น ให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ หวังคืนกำไรให้กับลูกค้าของตลาด อ.ต.ก. พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นอื่น ๆ ตามเทศกาล