สต๊อกข้าวโรงสีอีสานเกือบเกลี้ยง ลดลงมากสุดรอบ 10 ปี

ผงะสต๊อกข้าวโรงสีอีสานเกือบเกลี้ยงแล้ว ราคาตลาดยังนิ่งแค่ตันละ 12,500 บาท คาดต้นเหตุจากปมขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกสะดุด จุรินทร์ เตรียมถกสมาคมผู้ส่งออกข้าว 24 มี.ค.นี้

ผู้สื่อข่าว ”ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 ได้มีการประชุมคณะกรรมการ สมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้มีการรายงานสถานการณ์ข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยคณะกรรมการและสมาชิก ได้แจ้งข้อมูลว่า สต๊อกข้าว ที่มีอยู่ในโรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสต๊อกข้าวของฤดูกาลผลิตปี 2563 /64 มีสต๊อกที่ลดลงอย่างมากในรอบ10 ปีทุกคนได้ลดกำลังการผลิตลงถึง 50% และคาดว่า ข้าวสำรองที่มีอยู่ในโรงสีหากเร่งสีแปรก็ไม่เกิน 20 วันข้าวจะหมดจากในสต๊อกของโรงสี

แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าปริมาณข้าวมีน้อยมากราคาข้าวกลับไม่ขยับขึ้น ซึ่งจากการวิเคราะห์ของทุกฝ่ายน่าจะมาจากการที่ผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศได้ล่าช้าเพราะข่าวการขาดแคลนตู้คอนเทนเน่อร์และการขึ้นราคาค่าขนส่งที่สูงขึ้นมากทำให้การรับซื้อข้าวสารของผู้ส่งออกข้าวไปต่างประเทศรับซื้อข้าวจากโรงสีได้ในราคาไม่สูงจึงทำให้โรงสีไม่สารถซื้อข้าวเปลือกในราคาเพิ่มสูงขึ้นได้

“หากไม่เกิดเหตุการณ์ปัญหาการส่งออกตึงตัวทุกคนยังคาดการกันว่าราคาข้าวเปลือกน่าจะมีราคาที่ 14,000-15,000 บาท/ตัน แต่เวลานี้ราคาข้าวเปลือกที่โรงสีสามารถจะรับซื้อได้เพียง12,500-12,800 บาท/ตัน เท่านั้น ทุกคนก็คาดหวังว่าสถานการณ์จะเป็นปกติโดยเร็วซึ่งก็จะทำให้ราคาข้าวจะได้มีโอกาสที่จะขยับสูงขึ้นไปถึงราคาประกันรายได้กำหนดไว้ได้

ส่วนข้าวเหนียวรายงานมาว่าราคากำลังจะค่อยๆดีขึ้นแต่พอมีข่าวว่ามีข้าวเหนียวลักลอบจากเพื่อนบ้านราคาถูกเข้ามา ประกอบกับข้าวเหนียวนาปรังในประเทศกำลังเริ่มเตรียมเก็บเกี่ยวในอีกไม่กี่วันข้างหน้าและหากยังมีข้าวเหนียวที่ลักลอบจากเพื่อนบ้านเข้ามาจะทำให้ราคาข้าวเหนียวตกต่ำลงมากกว่าที่ควรจะเป็น ผู้ค้าข้าวสารในตลาดการค้าข้าวเหนียวก็กังวลกลัวราคาจะลดต่ำลงจะชะลอการรับซื้อข้าวสารจากโรงสี

รายงานข่าว ระบุว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดจะไปประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเรื่อง “ทิศทางตลาดข้าวไทย ปี 64” ในวันที่ 24 มีนาคม 2564