ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐ-อังกฤษสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

แท่นเจาะน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐและอังกฤษสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบปรับเพิ่ม

ปัจจัยบวก ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบและพลังงานอื่น ๆ จากรัสเซีย ขณะเดียวกันอังกฤษประกาศจะยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ภายในสิ้นปี 2565

ปัจจัยบวก Goldman Sachs คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2022 และ 2023 มีแนวโน้มดีดตัวขึ้นถึง 135 และ 115 ดอลลาห์สหรัฐต่อบาร์เรลตามลำดับ จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังยืดเยื้อ อาจทำให้เกิดวิกฤตพลังงานขาดแคลนระดับโลก

ปัจจัยบวก/ลบ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 4 มี.ค. 2565 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงที่ 2.0 ล้านบาร์เรล สำหรับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงที่ 5.5 ล้านบาร์เรล

ปัจจัยลบ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ยังคงแพร่ระบาดอย่างหนักในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศทางฝั่งเอเชีย ล่าสุดสหรัฐประกาศเพิ่มไทย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงสูงสุดต่อการระบาด โดยประกาศเตือนชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังไทย และประเทศกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ทางฝั่งเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการกักตุนสต๊อกน้ำมันเบนซินก่อนเข้าช่วงเดือนเราะมะฎอนและกิจกรรมการขับขี่ที่หนาแน่นในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากที่ตะวันตกประกาศยังไม่มีการสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบรวมถึงน้ำมันดีเซลจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในออสเตรเลีย หลังจากมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์

ที่มา : ไทยออยล์