หอการค้าจีนหารือพาณิชย์ เร่งรับมือผลไม้ติดด่านภายใน 2 สัปดาห์

หอการค้าจีนฯเตรียมพบพาณิชย์ จี้หามาตรการรับมือผลไม้ติดด่าน เคลียร์เส้นทางประสานศุลกากร CCIC ของจีนเร็วขึ้น เหตุจีนเข้ม Zero COVID ขีดเส้น 2 สัปดาห์ ต้องมีทางออก พร้อมแสดงความห่วง ปัญหา “เงินเฟ้อพุ่ง ราคาสินค้าแพง” จากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ทุบจีดีพีไทยปี’65

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลเก็บและส่งออกทุเรียนไทยไปจีน ซึ่งจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด สัดส่วน 89% ของการส่งออกทุเรียนสดทั้งหมดของไทย โดยเฉพาะทุเรียนสด มูลค่า 3,139.12 ล้านเหรียญสหรัฐ ปีที่ผ่านมาขยายตัว 108%

แต่ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณติดปัญหาจากการที่ทางการจีนได้ประกาศใช้มาตรการตรวจสอบ Zero COVID และออกมาตรการเข้มโดยได้จำกัดปริมาณการนำเข้าสินค้า การขนส่งทางบกเริ่มมีปัญหาตีกลับสินค้า แม้ว่าจะมีช่องทางเส้นทางรถไฟจีน-ลาว แต่ด่านกักกันโรคโม่ฮานจะสร้างเสร็จเดือนมิถุนายน

ซึ่งหากภาครัฐรอจะล่าช้าทำให้สินค้าเสียหาย ดังนั้นควรจะหาช่องทางอื่นให้สามารถส่งได้เร็วขึ้นทั้งทางเรือ ทางอากาศ

“เร็ว ๆ นี้จะหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาแนวทางให้เเล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ต้องมีมาตรการที่ชัดเจน เพราะจะไม่ทันฤดูกาลทุเรียนที่กำลังจะเริ่มออก

“โดยเบื้องต้นภาครัฐควรเร่งรัดประสานกรมศุลกากรจีน สำนักงานใหญ่ กรุงปักกิ่ง โดยตรงให้ลดขั้นตอนตรวจสอบสินค้า และเปิดเส้นทางเฉพาะ รวมไปถึงขอให้เชิญองค์กรรัฐวิสาหกิจด้านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพของจีน China Certification & Inspection Group (CCIC) ให้เข้ามาแนะนำตรวจสอบโดยตรงเพื่อลดขั้นตอนความปลอดภัยของสินค้าให้ส่งออกได้เร็วขึ้น

“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก หอการค้าฯคุยได้แค่ส่วนหนึ่ง แต่ภาครัฐต่อรัฐต้องเป็นหลักประสานโดยตรงศุลกากรจีน เพราะจะไม่ทันฤดูกาลทุเรียนที่กำลังจะออก

“ทราบว่าปีนี้จะมีจำนวนมาก ขอให้เชิญ CCIC มาช่วยแนะลดขั้นตอนให้คำเเนะนำ 2 อาทิตย์นี้ต้องคุยให้จบ เพื่อให้ผลไม้ไทยเราเข้าจีนได้เร็วขึ้น ถ้าช้าเกินไป หรือรอด่านกักกันเสร็จจะไม่ทันเเน่นอน”

สำหรับช่วง 3 ปีการระบาดของโควิด-19 เริ่มฟื้นตัว แต่เศรษฐกิจโลกและภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งคาดว่าจะยังไม่สิ้นสุดลงในเร็ววัน ส่งผลให้ปีนี้คาดว่าไทยจะเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น สินค้าต่าง ๆ แพงขึ้น กระทบกำลังซื้อประชาชน

ดังนั้นปีนี้ 2565 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะปรับตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์จากภาวะเงินเฟ้อ ส่วนจะเป็นตัวเลขอะไรต้องดูไปอีกระยะ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแม้ว่าประเทศจีนจะยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หอการค้าฯขอให้ภาครัฐโดยการบินไทยกลับมาเปิดเที่ยวบิน ระหว่างกรุงเทพฯและมณฑลหลักของจีนให้เร็วที่สุด และควรเร่งรัดโปรโมตประชาสัมพันธ์

โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว-ไทย กระตุ้นการท่องเที่ยวและการค้า ทั้งเมืองหลักเมืองรอง หากช้าไปกว่านี้จะเสียโอกาสให้กัมพูชา เวียดนาม

ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนนักธุรกิจจีนยังเติบโตต่อเนื่อง การค้าระหว่างไทยและจีน ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและยังคงเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์) การค้าระหว่างไทยและจีน ขยายตัว 16% มูลค่า 17,095 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีสัดส่วน 18% ของมูลค่าการค้ารวมทั้งหมดของไทย

ขณะที่การส่งออกไปจีนขยายตัว 4.78% และการนำเข้าจากจีนยังคงขยายตัว 21.73% ส่งผลประเทศไทยเสียเปรียบดุลการค้า 6,815 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้

หอการค้าจีนฯมองว่า การค้าระหว่างไทยกับจีนยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นความตกลงการค้าเสรี RCEP ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการไทยมีการใช้ประโยชน์ส่งออกไปยังตลาดหลัก คือ ญี่ปุ่น จีน เพิ่มสูงขึ้น เฉพาะจีนสูงถึง 453 ล้านบาท และน่าสนใจว่าผู้ส่งออกไทยไปจีน ส่วนใหญ่ได้รับการลดภาษีในระดับที่เท่ากับกรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน 0%

อีกทั้งพบการมาขอใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวกันมากขึ้น เนื่องจากสามารถวางแผนการนำเข้า-ส่งออกสินค้าล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะสินค้าผลไม้สด

นอกจากนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว-ไทย ยังเป็นโอกาสที่สำคัญในการส่งเสริมกระจายสินค้าไทยเข้าไปยังประเทศจีน ขณะเดียวกันการเยือนจีนของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ทางรัฐบาลจีนเร่งรัดก่อสร้างทางรถไฟจีน-ไทย ให้เชื่อมต่อกับทางรถไฟจีน-ลาว ซึ่งจะสนับสนุนการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพด้านบริการโลจิสติกส์ของประเทศ น่าจะเป็นโอกาสอีกมากในอนาคต

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวอีกว่า หอการค้าไทย-จีน รับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้ประกอบการชาวจีนโลก (WCEC) สมัยที่ 16 ระหว่างวันที่ 20-22 พฤษภาคม 2566 ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการชาวจีนจากทั่วโลกกว่า 3,000 คน เข้าร่วมประชุม และสำรวจลู่ทางการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวในประเทศไทย