ตลาดน้ำมันพืชโลกป่วนสะเทือนไทย อินโดฯห้ามส่งออก-น้ำมันพืช “ถั่วเหลือง เรปซีด ทานตะวัน” ตึงตัว ดันราคาผลปาล์มไทยทะลุ 12 บาท ทำสถิติสูงสุดรอบใหม่นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 64
วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 แหล่งข่าวจากสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทยเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้โรงสกัดได้ปรับราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันในหลายพื้นที่ สูงขึ้นเกินกว่า 12 บาทต่อกิโลกรัม อาทิ ราคา ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 11.40-12.10 บาท จังหวัดกระบี่กิโลกรัมละ 11.20 – 12.10 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาสูงสุดรอบใหม่จากที่ราคาผลปาล์มเคยสูงไปที่กิโลกรัมละ 10 บาทในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ปรับขึ้นจากก่อนหน้านี้กิโลกรัมละ 55 – 56 บาทเป็นกิโลกรัมละ 59-62 บาท
“ราคาหน้าป้ายบางจุดก็ทะลุ 12 ไปแล้ว ปกติแต่ละโรงงานจะจ่ายสูงกว่าราคาหน้าป้ายประมาณ 20-30 สต. ขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณด้วยถ้าเป็นลานเทชั้นดี ปาล์มคุณภาพดี ปริมาณเยอะ จะบวกเพิ่มเยอะมาก”
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาปาล์มปรับสูงขึ้นเป็นผลมาจากราคาตลาดโลกปรับขึ้น ผลผลิตพืชน้ำมันอื่น เช่น ถั่วเหลือง เรปซีด ทานตะวันมีปัญหา ในยุโรป อินโดฯห้ามส่งออก ความต้องการน้ำมันปาล์มขึ้นสูง ทั้งยังมีความต้องการใช้จากอินเดียที่เพิ่มมากด้วย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาของไทยอาจจะมีปรับเปลี่ยน เอกชนเฝ้าจับตามองนโยบายของกระทรวงพลังงานขณะนี้ หลังจากมีกระแสข่าวจากกระทรวงพลังงานที่ระบุว่าจะมีการพิจารณาทบทวนการใช้ไบโอดีเซลเพื่อเป็นส่วนผสมของน้ำมันดีเซลลดลง เหลือบี3 จากก่อนหน้าหน้านี้ที่ลดการใช้บี 7 เหลือบี 5 เพื่อลดแรงกดดันราคาน้ำมัน
ขณะที่ราคาน้ำมันพืชเพื่อบริโภคกระทรวงพาณิชย์ยังขอความร่วมมือในการตรึงราคาอยู่ที่ 64 ถึง 66 บาท