อีอีซี ดึง ABB-Roche-ศิริราช ปั้นบุคลากรขั้นสูงด้านออโตเมชั่น

อีอีซี เชื่อมสัมพันธ์ไทย – สวิสเซอร์แลนด์ ผนึก ABB และ Roche ลงนาม MOU สร้างบุคลากรขั้นสูง พัฒนาระบบออโตเมชั่น โซลูชั่นการจ่ายกระแสไฟฟ้า และสถานีชาร์จอีวี ดึงศิริราชฯ ใช้เทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูงรักษาโรคมะเร็ง หวังคนไทยรักษาโรคแม่นยำ พร้อมก้าวสู่ศูนย์กลางการแพทย์ภูมิภาคเอเชีย

วันที่ 13 มิถุนายน 2565 นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ อีอีซี) กล่าวว่า อีอีซี ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 2 ฉบับ โดยฉบับแรก เป็นบันทึกข้อตกลงฯ ความร่วมมือกับ บริษัท บริษัท เอบีบี อิเล็คทริฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (ABB Electrification และ ABB Automation) เพื่อจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและการพัฒนาความสามารถ (ABB Academy) เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาทักษะบุคลากรในพื้นที่อีอีซี ในด้านระบบออโตเมชั่น โซลูชั่นการจ่ายกระแสไฟฟ้า และระบบชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV)

โดยจะมีการจัดสาธิตทักษะใหม่ๆ และฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในพื้นที่อีอีซี อาทิ อีอีซี ซิลิคอน วัลเล่ย์ เทคพาร์ค จังหวัดระยอง (Tech Park), ศูนย์ธุรกิจเอบีบี ระยอง จังหวัดระยอง (ABB RBC) และในพื้นที่ศูนย์นวัตกรรมเอบีบี บางปู จังหวัดสมุทรปราการ (ABB Innovation Center) และได้ตั้งเป้าหมายให้เกิดบุคลากรทักษะสูงไม่น้อยกว่า 1,000 คน ในระยะเวลา 2 ปี สร้างตำแหน่งงานตรงความต้องการอุตสาหกรรม 4.0 ในพื้นที่อีอีซี

               

นอกจากนี้ ยังลงนามความร่วมมือกับบริษัท โรช ไทยแลนด์ (Roche) และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันผลักดันการใช้เทคโนโลยีการตรวจทางการแพทย์ขั้นสูง มาใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็ง โดยการนำเอาเทคโนโลยีระดับโลกด้านการถอดรหัสพันธุกรรมจากชิ้นเนื้อมะเร็ง มาใช้เพื่อเลือกแผนการรักษามะเร็งได้อย่างแม่นยำและให้ผลการรักษาที่ดี โดยข้อมูลที่ได้จากความร่วมมือนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันเชิงนโยบาย เพื่อสนับสนุนให้เทคโนโลยีการตรวจรักษามะเร็งแบบแม่นยำและจำเพาะบุคคลแพร่หลาย และประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้

“ความร่วมมือฯ ในวันนี้ จะเป็นก้าวสำคัญเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และดึงนักลงทุนชั้นนำจากสวิสเซอร์แลนด์ในอุตสาหกรรม 4.0 ที่จะเกิดการลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวมทั้งความร่วมมือส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง โดยเฉพาะการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งจะสนับสนุนการศึกษา และพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกัน ที่จะช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงการรักษาที่แม่นยำ ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง คนไทยได้เข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีด้านการแพทย์ชั้นสูง และยกระดับบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างยั่งยืน”

นายเจียนอันเดร-อะ บรุซโซเน กรรมการบริษัท บริษัท เอบีบี อิเล็คทริฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (ABB Electrification) กล่าวว่า ทาง ABB มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งอนาคตมาอย่างต่อเนื่อง โดยการลงนามความร่วมมือฯ ครั้งนี้ ABB มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมกับอีอีซี จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและการพัฒนาความสามารถ สนับสนุนการสร้างทักษะบุคลากรชั้นสูง โดยเฉพาะในด้านระบบออโตเมชั่น โซลูชั่นการจ่ายกระแสไฟฟ้า และระบบชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าอีวี ซึ่งถือเป็นความเชี่ยวชาญของ ABB เพื่อเตรียมบุคลากรรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี พร้อมทั้งขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล 5G ที่เป็นหัวใจสำคัญผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0

ศ.ดร.นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ในฐานะสถาบันการแพทย์และสถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศไทย ที่ได้ศึกษาวิจัยและให้บริการผู้ป่วยมะเร็งด้วยหลักการแพทย์แม่นยำมากว่า 5 ปี มีการใช้เทคโนโลยีถอดรหัสพันธุกรรมรุ่นใหม่กับโรคมะเร็งทั้งจากชิ้นเนื้อและเลือดของผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อให้การวินิจฉัยผู้ป่วยมะเร็งที่ถ่ายทอดได้ในครอบครัว และค้นหายีนก่อมะเร็งที่กลายพันธุ์และมียารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า ซึ่งออกฤทธิ์ได้ตรงจุดส่งผลให้การรักษามะเร็งได้ผลดีขึ้น มีผลข้างเคียงลดลงผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการประสานองค์ความรู้การวิจัยและการบริการของศิริราช เข้ากับผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกด้านการตรวจยีนแบบครอบคลุมจากชิ้นเนื้อมะเร็งที่เรียกว่า (Comprehensive Genomic Profiling: CGP) และเวชภัณฑ์ในการรักษามะเร็ง โดยการสนับสนุนจากอีอีซี เพื่อผลักดันให้มีการตรวจพันธุกรรมของมะเร็งอย่างกว้างขวาง ผู้ป่วยและสถานพยาบาลต่างๆ สามารถเข้าถึงการตรวจดังกล่าวได้สะดวกขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องส่งไปตรวจยังต่างประเทศและเข้าถึงยามะเร็งรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

นายฟาริด บิดโกลิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โรช ไทยแลนด์ เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว กล่าวว่า โรช ไทยแลนด์ ภูมิใจที่ได้นำเทคโนโลยีการตรวจยีนมะเร็งแบบครอบคลุม ที่ได้มาตรฐานระดับโลกมาสู่ประเทศไทย เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าใจความหลากหลายของรูปแบบการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันกับศิริราชและอีอีซี เพื่อขยายโอกาสให้ผู้ป่วยมะเร็งได้เข้าถึงนวัตกรรมการดูแลสุขภาพแบบจำเพาะบุคคล (Personalized Healthcare)

ได้แก่ การตรวจวินิจฉัยยีนกลายพันธุ์ที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม และต่อยอดไปสู่ตัวเลือกการรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted therapy) และยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมการแพทย์ เพื่อนำมาซึ่งความเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการรักษาโรคมะเร็ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคต การศึกษาวิจัยและข้อมูลที่ได้จะมีส่วนช่วยกำหนดทิศทางการดำเนินงานของระบบดูแลสุขภาพของประเทศไทย ให้พร้อมรองรับความต้องการด้านการรักษาแบบจำเพาะบุคคลของผู้ป่วยในประเทศและนานาชาติ