GC ชี้แจงปมค่าการกลั่น สัดส่วนกำไรธุรกิจแค่ 3% ต้นทุนพุ่ง-ดีมานด์หด

ราคาน้ำมัน

โรงกลั่นน้ำมัน GC แจงประเด็นค่าการกลั่นปี’64 มีสัดส่วนกำไร 3% เหตุต้นทุนวัตถุดิบพุ่ง-ดีมานด์การใช้น้ำมันลดลง คาดปี’65 ยังกระทบต่อเนื่อง

วันที่ 23 มิถุนายน 2565 นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) หรือ GC เป็นผู้ดําเนินธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ครบวงจร ซึ่งธุรกิจของบริษัทมุ่งดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์เป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจการกลั่นในปี 2564 มีสัดส่วนกำไรเพียง 3% ของกำไรทั้งหมด

คงกระพัน อินทรแจ้ง
คงกระพัน อินทรแจ้ง

สำหรับธุรกิจโรงกลั่นของ GC มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล และน้ำมันเตา ส่วนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ซึ่งปัจจุบันกำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีได้รับผลกระทบจากวัตถุดิบที่มีราคาสูง และความต้องการในตลาดมีแนวโน้มลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการในปี 2565 ที่มีแนวโน้มลดลงจากปี 2564 โดยผลประกอบการของโรงกลั่นในปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

“ตามที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับกำไรของธุรกิจโรงกลั่นในประเทศไทยปัจจุบัน ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในกระบวนการผลิตของโรงกลั่นน้ำมัน= จะสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลายประเภทในคราวเดียว ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ก๊าซหุงต้ม (LPG) น้ำมันเตา และแนฟทา ดังนั้น การคำนวณค่าการกลั่นจะต้องพิจารณาจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักราคาของทุกผลิตภัณฑ์ที่กลั่นออกมาจากหอกลั่น เทียบกับราคาน้ำมันดิบที่แต่ละโรงกลั่นสั่งซื้อเข้ามากลั่นจริง ซึ่งต้องรวมค่าพรีเมี่ยมของน้ำมันดิบ และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เช่น ค่าขนส่ง และค่าประกันภัย“

นอกจากนั้น ในกระบวนการผลิตโรงกลั่นยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ใช้ในการกลั่น เช่น ค่าความร้อน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าสูญเสีย อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ค่าบริหารความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ และความเสี่ยงจากราคาขึ้นหรือลงของสต๊อกน้ำมัน ดังนั้น ค่าการกลั่นจึงไม่ใช่กำไรที่แท้จริงที่โรงกลั่นได้รับ

ปัจจุบันการซื้อขายน้ำมันเป็นธุรกิจการค้าเสรี ราคาซื้อขายเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งราคามีความสัมพันธ์กันทั่วโลก ดังนั้น การควบคุมราคาในประเทศจะทำให้ผู้ผลิตอาจลดกำลังการผลิตหรือส่งออกไปจำหน่ายในตลาดที่ให้ราคาสูงกว่า อันจะเป็นความเสี่ยงให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันในประเทศ และจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศต่อกฎระเบียบการค้าเสรีของไทย อันจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยในระยะยาว นอกจากนั้น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่เพียงเกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั่วโลกก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน

บริษัทเล็งเห็นถึงความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือโดยขอให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทมุ่งมั่นในการสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ โดยการจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศเป็นหลัก แม้จะมีความต้องการจากตลาดต่างประเทศก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ประเทศเกิดภาวะขาดแคลนทางพลังงาน อันจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม

อนึ่ง จีซีถือเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพอันดับ 1 ของโลก ปัจจุบันธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ปิโตรเคมีขั้นต้น ปิโตรเคมีขั้นกลาง โพลิเมอร์และเคมีภัณฑ์ พลาสติกชีวภาพและผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน และเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ


ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเดินหน้าขยายฐานสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยเคมีภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกกลุ่ม มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจครบวงจรที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้คน รองรับเมกะเทรนด์ สอดรับกับแนวคิด #ยิ่งใกล้คุณยิ่งต้องดี เพื่อตอกย้ำภารกิจในการสร้างความมั่นใจว่า ทุกผลิตภัณฑ์ที่มาจาก GC ได้รับการพัฒนาให้ดีที่สุด ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ดี กระบวนการผลิตและการกำกับดูแลที่ดีมีธรรมาภิบาล ดีต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อโลก