สมอ.แก้หลักเกณฑ์ช่วยผู้ส่งออกสินค้าถูกตีกลับ ผลพวงสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ส่งออก ตู้คอนเทนเนอร์
Photo : Pixabay

บอร์ด สมอ.ไฟเขียว ให้แก้ไขหลักเกณฑ์ช่วยผู้ส่งออกเพิ่มเติม กรณีส่งสินค้าออกไปแล้วไม่สามารถเข้าประเทศปลายทางได้ จำเป็นต้องนำกลับเข้าประเทศไทย ให้แสดงหลักฐานว่าเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกันกับที่ส่งออก เริ่มใช้เดือน ส.ค.นี้

วันที่ 1 สิงหาคม 2565 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มเติม กรณีผู้ส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยไม่สามารถส่งสินค้าเข้าประเทศปลายทางได้ และจำเป็นต้องนำสินค้ากลับเข้ามาในประเทศ โดยให้ สมอ.ออกมาตรการช่วยเหลือโดยเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ส่งออก ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้

บรรจง สุกรีฑา
บรรจง สุกรีฑา

นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า จากข้อสั่งการดังกล่าว คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) ในคราวการประชุมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้ สมอ.แก้ไขหลักเกณฑ์ในการส่งออกสินค้าที่เป็นสินค้าควบคุมจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่

1.หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่แตกต่างไปจากมาตรฐานที่กำหนด เพื่อประโยชน์ในการส่งออก โดยกรณีเมื่อส่งออกแล้วมีความจำเป็นต้องนำกลับเข้ามาในประเทศอีก ให้แจ้งต่อ สมอ. พร้อมแสดงหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกันกับที่ได้ส่งออก โดยมิได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและลักษณะใด ๆ

2.หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนั้น แล้วส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทั้งหมด โดยในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกแล้วแต่มีความจำเป็นต้องนำกลับเข้ามาในประเทศอีก ให้แจ้งต่อ สมอ. พร้อมแสดงหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกันกับที่ได้ส่งออก โดยมิได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและลักษณะใด ๆ เช่นกัน

ซึ่งการแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการส่งออก ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในรัสเซีย-ยูเครน แต่ยังอยู่ในการควบคุมของ สมอ. เพื่อไม่ให้สินค้าที่นำกลับเข้ามา มีการจำหน่ายภายในประเทศได้ เพราะสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่ผลิตตามความต้องการของประเทศต่าง ๆ ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานของประเทศไทย และอาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชนไทยได้

“นอกจากบอร์ด กมอ. จะเห็นชอบให้ สมอ.แก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังได้เห็นชอบให้ สมอ.ควบคุมสินค้าเพิ่มเติมอีก 2 รายการ ได้แก่ เสายางจราจรล้มลุก และชุดประกอบสวิตช์เกียร์ รวมทั้งเห็นชอบมาตรฐานที่กำหนดใหม่ จำนวน 31 มาตรฐาน

อาทิ มาตรฐานข้อความที่ใช้สื่อสารในอุตสาหกรรมการเงินสากล อุปกรณ์จำกัดความเร็วยานยนต์ กระดาษสัมผัสอาหาร บล็อกยางปูพื้นสังเคราะห์ เสาเข็มคอนกรีต ภาชนะพลาสติกสลายตัวได้สำหรับบรรจุอาหาร เครื่องขัดเงาและเครื่องขัดล้างพื้น เครื่องล้างจาน เครื่องบาร์บีคิวภายนอกอาคาร ตู้อบเซาน่าและตู้อบอินฟราเรด และเครื่องสุขอนามัยช่องปากไฟฟ้าอีกด้วย”