เทรนด์นักท่องเที่ยวจีนแห่แต่งชุด “นักเรียนไทย” กระทรวงศึกษาธิการ มองเป็นเรื่องดี ไม่เสียหายอะไร ช่วยสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้กับประเทศ
วันที่ 9 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดนักเรียนไทยกลายเป็นแฟชั่นยอดฮิตในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยนิยมไปหาซื้อชุดนักเรียนมาสวมใส่ พร้อมกับปักชื่อตนเองเป็นภาษาไทย เช็กอินไปตามสถานที่ต่าง ๆ และถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะตลาดบางลำพู ที่กลายเป็นหมุดหมายใหม่ของวัยรุ่นชาวจีน เนื่องจากมีร้านขายเสื้อผ้าหลากหลาย รวมถึงมีร้านขายชุดนักเรียนด้วย
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
จุดเริ่มต้นกระแส
ชุดนักเรียนไทย ได้กลายเป็นแฟชั่นยอดฮิตในกลุ่มคนจีนมานานหลายปี และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2564 หลังซีรีส์เรื่อง “เด็กใหม่ 2” Girl from Nowhere ที่มีแนนโน๊ะ เป็นตัวชูโรง เล่าเรื่องในรั้วโรงเรียนได้ออกฉาย กระแสความนิยมก็พุ่งพรวด ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน ที่ถึงขั้นติดเทรนด์ในแอปพลิเคชั่น เว่ยป๋อ
นอกจากนี้ยังมีเรื่อง สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ภาพยนตร์ไทยที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับรักแรกในโรงเรียน ซึ่งไปโด่งดังที่ประเทศจีนด้วย ส่งผลให้ในกลุ่มบล็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ และเน็ตไอดอลชาวจีน ต่างสั่งซื้อชุดนักเรียนมาสวมกันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นไวรัลในที่สุด
และเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 “จวี จิ้งอี” หรือ “เสี่ยวจวี” นักร้องนักแสดงหญิงชาวจีน อดีตสมาชิกของวง SNH48 โด่งดังจากบทบาท “นางพญางูขาว” ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และได้มีการซื้อชุดนักเรียนไทย ปักชื่อตัวเองในภาษาไทย ว่า “จวีจิ้งอี 991” และนำมาสวมใส่ท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของนักท่องเที่ยวชาวจีน เลียนแบบคนดังสวมใส่ชุดนักเรียนไทยเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจนถึงถึงตอนนี้
ศธ.ชี้เป็นเรื่องดีสร้างซอฟต์พาวเวอร์
ขณะนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยากให้มองที่เจตนา หากใส่เพื่อการท่องเที่ยว ถือเป็นเรื่องดี ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้ชุดนักเรียนไทยเราเป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้
“ส่วนจะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดหรือไม่นั้นหากนักท่องเที่ยวใส่ในสถานที่อโคจร ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการใส่ชุดนักเรียนไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม มองว่าเรื่องดังกล่าวก็เหมือนกับที่เราไปต่างประเทศก็อยากจะใส่แฟชั่นตามความนิยมของประเทศนั้น เช่น ในประเทศญี่ปุ่น ก็มีแฟชั่นชุดนักเรียนญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้น การที่นักท่องเที่ยวใส่ชุดนักเรียน ก็สามารถทำได้ ไม่เสียหายอะไร”
ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่าการแต่งชุดนักเรียนของนักท่องเที่ยวจีน เหมือนเป็นแฟชั่นทั่วไป ซึ่งตนมองว่านักท่องเที่ยวสามารถใส่ได้ และถ้าทำแล้วเกิดเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกทำตาม ก็อาจจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่เราสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ แต่ถ้านักท่องเที่ยวใส่ชุดนักเรียนที่ปักอักษรย่อของโรงเรียนใด โรงเรียนหนึ่ง แล้วไปเข้าสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานหรือโรงเรียนนั้น ก็อาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551
ขณะที่อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ผมได้เห็นในสื่อออนไลน์ระบุว่า นักท่องเที่ยวมีการใส่ชื่อของเขาที่หน้าอกเสื้อ แสดงความน่ารัก มีความสวยงาม ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย แสดงว่านักท่องเที่ยวได้มองเห็นว่าเครื่องแบบนักเรียนไทย “เป็นที่น่ารัก” จนสนใจที่จะแต่งตาม ในอดีตเราก็มองเครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่นในยุคนั้นว่าสวยงามจนแต่งตาม มายุคนี้เค้าให้ความสำคัญกับชุดนักเรียนไทย ก็อย่าไปซีเรียส ดูที่เจตนาเป็นหลัก มองในเรื่องของความบันเทิงและการท่องเที่ยว
ศธ.มองที่ภาพรวมในเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่า อยากฝากเรื่องของความเหมาะสมในสถานที่ และเวลาที่ควรระวังคือ ยามวิกาลอาจไม่เหมาะสม อาจเกิดอันตรายให้กับนักท่องเที่ยว และสร้างการเข้าใจผิดแก่สังคมได้ ตรงนี้ทีมท่องเที่ยวหรือหัวหน้าไกด์ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน
