เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธานมอบหมายให้คณะอนุกรรมการจัดทำรายละเอียด การปรับเพิ่มเงินเดือนให้กับข้าราชการในสถาบันอุดมศึกษา ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา(ฉบับที่5) พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม ในมาตรา8/1 ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อเป็นการเยียวยาให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งที่เหมาะสมและเป็นธรรม ว่า ทราบว่า คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมายว่า ครอบคลุมกลุ่มใดบ้าง และจะให้มีผลย้อนหลังไปถึงปีไหน เพื่อจัดทำงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้การที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต้องยุติบทบาท และมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปลัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แล้ว ไม่กระทบกับการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะในบทเฉพาะกาลกำหนดให้ก.พ.อ. สามารถทำงานต่อไปได้ จนกว่าจะมีการสรรหาใหม่ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหา
นพ.อุดม กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มพนักงานมหาวิทยาลัยนั้น เป็นอำนาจของสภามหาวิทยาลัย ที่จะดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ของพนักงานมหาวิทยาลัยให้เหมาะสม อว.คงไม่เข้าไปก้าวล่วงและไม่ได้ปิดกั้นการขึ้นเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัย แต่เป็นหน้าที่สภาฯที่จะต้องดำเนินการ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“กรณีการขึ้นเงินเดือน 8% ให้ข้าราชการในสถาบันอุดมศึกษา จะมาเปรียบเทียบกับพนักงานมหาวิทยาลัย หรือจะบอกว่า ขึ้นให้ข้าราชการ แล้วต้องขึ้นให้พนักงานมหาวิทยาลัยด้วย ไม่ได้ เพราะกลุ่มพนักงานมีฐานเงินเดือนที่มากกว่า ข้าราชการแล้ว 1.7 เท่า ดังนั้นจึงเทียบกันไม่ได้ เพราะพนักงานมหาวิทยาลัยได้เงินเดือนมากกว่าไปแล้ว แต่ที่พูดแบบนี้ไม่ได้ปิดกั้นการขึ้นเงินเดือนพนักงาน เป็นหน้าที่ของสภาฯ ต้องไปพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน” นพ.อุดมกล่าว
ที่มา : มติชนออนไลน์