
วิศวะ ม.ธรรมศาสตร์ เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ หลักสูตรอินเตอร์ โครงการ “TEP-TEPE” เรียนไทย 2 ปี ต่างประเทศ 2 ปี เรียนจบได้ปริญญา 2 ใบ ยื่นคะแนนได้ถึงวันที่ 2 มิถุนายน ไม่ต้องสอบสัมภาษณ์
วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat School of Engineering หรือ TSE) เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ในระดับปริญญาตรี รอบ 4 กับหลักสูตรอินเตอร์ ในโครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (Twinning Engineering Programmes) หรือ TEP
- เปิดตัว “คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ” ห่างสนามบิน 10 นาที
- พระราชินี ทรงนำทีมแข่งขันเรือใบนานาชาติ เข้าเส้นชัยอันดับ 1
- พระราชินี เสด็จฯ ส่วนพระองค์ ทรงร่วมวิ่ง CIB RUN 2023 ระยะทาง 10 กิโลเมตร
และโครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตหลักสูตรนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Thammasat English Programme of Engineering) หรือ TEPE เป็นหลักสูตรที่ออกแบบการเรียนได้ด้วยตนเอง อาทิ การเรียนต่อกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก การฝึกงานในต่างประเทศ และการรับทุนการศึกษาอีกมากมาย
ซึ่งขณะนี้โครงการ TEP-TEPE กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ในระดับปริญญาตรี รอบ 4 ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2565 โดยไม่ต้องสอบสัมภาษณ์ ซึ่งสามารถยื่นคะแนนได้ 3 รูปแบบ ดังนี้
1. Portfolio + คะแนนภาษาอังกฤษ
2. GPA + คะแนนภาษาอังกฤษ
3. คะแนนมาตรฐาน + คะแนนภาษาอังกฤษ
TEP เรียนไทย 2 ปี- ต่างประเทศ 2 ปี ได้ 2 ปริญญา
รองศาสตราจารย์ ดร.ธีร เจียศิริพงษ์กุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat School of Engineering หรือ TSE) กล่าวว่า โครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (TEP : Twinning Engineering Programmes) หรือ TEP ของ TSE นั้น เน้นการปูพื้นฐานด้านวิศวกรรมเป็นเวลา 2 ปีที่ศูนย์รังสิต จากนั้นนักศึกษาจะมีโอกาสเลือกไปเรียนต่อกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกต่ออีก 2 ปี ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ TSE ที่มีด้วยกัน 3 แห่ง ดังนี้
1.มหาวิทยาลัยแห่งนอตติงแฮม สหราชอาณาจักร (The University of Nottingham, UK) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ในเรื่องของการบุกเบิกและพัฒนาหลักสูตรการศึกษาและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้เรียน อีกทั้งยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยในเวทีโลก ด้วยศักยภาพการเป็นหนึ่งในสมาชิกของมหาวิทยาลัยใน Russell Group ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านคุณภาพของงานวิจัย และมีคุณภาพการสอนอยู่ในระดับสูง
โดยขณะนี้มีนักศึกษามากกว่า 46,000 คนจาก 150 ประเทศ เข้าศึกษาใน 3 วิทยาเขต ได้แก่ สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหพันธรัฐมาเลเซีย ซึ่งนักศึกษาของ TSE จะได้รับทุนการศึกษาเป็นส่วนลดค่าเล่าเรียน 25% โดยไม่มีเงื่อนไข และหาก Professor เล็งเห็นถึงศักยภาพทางวิชาการของนักศึกษา ก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อเสนอทุนเล่าเรียนในอัตราพิเศษ ที่ถูกกว่านักศึกษาทั่วไปอีกด้วย
2.มหาวิทยาลัยแห่งนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย (UNSW Sydney, Australia) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั้งหมด 8 แห่ง ด้านการเรียนการสอนและการค้นคว้าวิจัยของออสเตรเลีย หรือที่เรียกว่า “The group of Eight” (Go8) และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายระดับโลกของบรรดามหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นด้านการวิจัยระดับสากลจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ
นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับศิษย์เก่าผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการขยายฐานการทำงานไปทั่วโลก โดยส่วนใหญ่จะมีทักษะที่โดดเด่น สามารถร่วมงานกับภาครัฐ ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมในประเทศบ้านเกิดของตนเองด้วย
3.มหาวิทยาลัยเคยู เลอเฟิน ประเทศเบลเยียม (KU Leuven, Belgium) เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของเบลเยียม และเป็นอันดับที่ 70 ของโลก จากการจัดอันดับของ QS World Ranking โดยมีจุดเด่นคือมุ่งเน้นการพัฒนาด้านนวัตกรรม จนได้รับการขนานนามว่า “เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมแห่งยุโรปต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน”
โดยเปิดสอนในสาขาวิศวกรรมที่น่าสนใจชื่อว่า Electromechanical Engineering ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ การคว้าปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตจากสถาบันดังกล่าว ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดประตูสู่ทั่วยุโรป ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับสูงต่อไป หรือเริ่มต้นชีวิตการทำงานได้เลย
TEPE ใช้ภาษาอังกฤษตลอดหลักสูตร
รองศาสตราจารย์ ดร.ธีร เจียศิริพงษ์กุล กล่าวต่อว่า TEPE เป็นการเรียนวิศวะอินเตอร์ ในประเทศไทย 4 ปีตลอดหลักสูตร ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งมีทั้ง 5 สาขา อาทิ วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า และวิศวกรรมอุตสาหการ โดยจะมีการจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ โดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ที่พร้อมด้วยประสบการณ์ที่ตรงกับภาคอุตสาหกรรม มาร่วมจัดการสอนตลอดหลักสูตร
นอกจากนี้ ในแต่ละปี โครงการ TEPE ยังเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้คว้าทุนการศึกษาได้อีกด้วย ซึ่งมีทั้งทุนเต็มจำนวน และทุนแรกเข้า และยังได้ขยายความร่วมมือในการส่งเสริมให้นักศึกษาของ TSE เดินทางไปแลกเปลี่ยน (Exchange Programmes) กับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อนักศึกษาขึ้นปีที่ 3 จะสามารถเลือกสถานที่จะเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน (Exchange Programmes)
และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในโครงการฝึกงาน ณ ต่างประเทศ (Internship Abroad Programmes) ที่อยู่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง TSE และมหาวิทยาลัยคู่สัญญา ณ ต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน TSE ได้มีความร่วมมือ (MOU) ไว้กับหลายสถาบันชั้นนำทางด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีกว่า 20 แห่ง ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย
โครงการ TEPE จึงเหมาะกับน้อง ๆ ที่มีความพร้อมในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และมีจุดเด่นคือ คลาสเรียนมีขนาดกะทัดรัด เอื้อต่อการสร้างบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนและผู้สอนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรที่น้อยกว่า โดย TSE มีแผนพัฒนาหลักสูตรโครงการ TEPE ให้สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรของมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่อยู่ในคู่สัญญา เพื่อยกระดับศักยภาพคุณภาพการเรียนการสอนด้านวิศวกรรมของไทย และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
อย่างไรก็ตาม สำหรับ Dek65 ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://tse-admission.engr.tu.ac.th/ และสามารถติดตามข่าวสารของ TSE ได้ที่ www.engr.tu.ac.th และ Facebook Fanpage ของ TSE ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT