3 หุ้นใหญ่เข้าตลาดหุ้นแสนล้าน ครึ่งปีหลังไอพีโอคึก “TOA-PRM-GULF”-

ตลาดหลักทรัพย์ฯเผย 3 หุ้นใหญ่ต่อแถวระดมทุนในครึ่งปีหลัง “TOA-PRM-GULF” มูลค่ามาร์เก็ตแคปพุ่งกว่า 1 แสนล้านบาท ดัน ตลท.ทำได้ตามเป้าหมายทั้งปี 2.8 แสนล้าน ฟากที่ปรึกษาการเงิน บล.กสิกรไทย-ธนาคารไทยพาณิชย์ เร่งส่งบริษัทเข้าระดมทุนพรึ่บ

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ภาวะตลาดหุ้นใหม่ (IPO) จะมีความคึกคักขึ้นมา เนื่องจากจะมี 3 บริษัทขนาดใหญ่ ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ได้แก่ บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA), บมจ.พริมา มารีน (PRM) และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ซึ่งทั้ง 3 บริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) รวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งหุ้นใหญ่ที่เข้ามาระดมทุนในช่วงนี้จะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยน่าสนใจลงทุนมากขึ้น

โดยมองว่านอกจากหุ้นใหม่ขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายของตลาดให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนอีกด้วย เพราะปกติหุ้นใหญ่มักดึงดูดให้นักลงทุนทุกกลุ่มสามารถเข้าลงทุนได้ แตกต่างจากหุ้นขนาดเล็ก ๆ ที่นักลงทุนบางกลุ่มอาจลงทุนได้ไม่มากนัก หรือลงทุนได้ค่อนข้างจำกัด ซึ่งเชื่อว่ายังมีบริษัทขนาดใหญ่มีแผนจะระดมทุนอยู่อย่างต่อเนื่อง และภายในสิ้นปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯจะสามารถเพิ่มมาร์เก็ตแคปจากหุ้นใหม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.8 แสนล้านบาท และถือว่าสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบัน (ณ 9 ส.ค. 60) มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว จำนวน 15 บริษัท คิดเป็นมูลค่ามาร์เก็ตแคปรวมอยู่ที่ 147,517 ล้านบาท

“ปัจจุบันยังมีบริษัทใหญ่ ๆ ที่สนใจเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นอยู่เรื่อย ๆ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะเน้นให้ความสำคัญของการเข้มงวดเรื่องคุณภาพ บจ.ที่ดีเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมามี บจ.ที่เกิดปัญหา ซึ่งหลังจากนี้อยากให้ผู้เข้ามาระดมทุนต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้ลงทุนด้วย” นายสันติกล่าว

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไอพีโอจะคึกคักมากขึ้นเช่นกัน หลังจากช่วงที่ผ่านมามีจำนวนหุ้นไอพีโอน้อย เมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่พร้อมจะลงทุน ดังนั้นเมื่อมีหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่จะเข้าตลาดหุ้น เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี

โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีลูกค้าที่เตรียมเข้าระดมทุนอีกจำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ราว 3 บริษัท ได้แก่ PRM, TOA และ GULF ขณะที่มี 1 บริษัทที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คือ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP)

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Primary Distribution ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กลยุทธ์การจัดสรรหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่จะต้องกระจายให้เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันอาจมีการเพิ่มสัดส่วนให้กับนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนรวมต่าง ๆ กองทุนประกันสังคม บริษัทประกัน ตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงบางส่วนอาจมีการกระจายหุ้นให้กับกลุ่มสถาบันต่างชาติด้วย เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผู้ลงทุน

ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปีนี้อีกประมาณ 5 บริษัท ซึ่งแบ่งเป็นเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ PRM, GULF และธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีทส์) อีกจำนวน 2 กองทุน

“กลยุทธ์การทำหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่นั้น เราต้องเน้นให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน ซึ่งหากเขาได้หุ้นไอพีโอไม่เต็มตามความต้องการ ก็อาจมีการให้เก็บหุ้นหลังเข้าตลาดเองด้วย ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นเติบโตในระยะยาว ไม่ใช่คึกคักแค่ช่วงวันเข้าเทรดวันแรก” นางสาววีณากล่าว

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TOA กล่าวว่าบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้น IPO โดยแบ่งเป็นหุ้นที่เสนอขายโดยบริษัทไม่เกิน 254 ล้านหุ้น และเสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม คือ บริษัท ไวแบรนด์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด จำกัด จำนวนไม่เกิน 253.6 ล้านหุ้น ซึ่งคาดว่าจะเข้าซื้อขายใน SET ได้ภายในช่วงไตรมาส 4 นี้

ทั้งนี้เงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น บริษัทจะนำไปลงทุนก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติมอีก 3 แห่งในต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, เมียนมา และกัมพูชา ซึ่งจะมีกำลังการผลิตรวม 15 ล้านแกลลอนต่อปี ซึ่งใช้งบลงทุนประมาณ 990 ล้านบาท รวมถึงใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอีกราว 210 ล้านบาท


ส่วนปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตสีและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้งหมด 8 แห่ง อยู่ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย 3 แห่ง ส่วนที่เหลืออยู่ในเวียดนาม, ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา และกัมพูชา ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 88 ล้านแกลลอนต่อปี