กสิกรเปิด 4 อุตสาหกรรมหนุนเศรษฐกิจโต พร้อมปล่อยสินเชื่อพัฒนาธุรกิจ

เศรษฐกิจ

กสิกรไทย เผยทุกวิกฤตยังมีโอกาส เปิด 4 อุตสาหกรรม สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ “อาหาร-สุขภาพ-ยานยนต์-ท่องเที่ยว” พร้อมปล่อยสินเชื่อพัฒนาธุรกิจช่วงเปลี่ยนผ่านก้าวสู่เทรนด์ในอนาคต

วันที่ 31 สิงหาคม 2565 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แม้ประเทศไทยจะเผชิญสถานการณ์หนี้ครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น จากสงครามรัสเซียและยูเครน แต่ในทุกวิกฤตยังมีโอกาสที่ซ่อนอยู่ เนื่องจากเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้อยู่ แม้การท่องเที่ยวซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะยังไม่กลับมา แต่ยังมีเครื่องยนต์เศรษฐกิจจากการนำเข้าและส่งออก โดยเป็นกลไกหลักในการช่วยเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมที่โดดเด่นมากมาย ไม่ใช่เฉพาะการท่องเที่ยว เช่น อาหาร สุขภาพ อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งหากมีการสร้างผลผลิตใหม่ ๆ อาทิ ด้านอาหาร ดึงเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนา เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งไทยมีฐานการผลิตรถยนต์สันดาปอยู่แล้ว แต่ในอนาคตจะต้องปรับตัวให้เป็นฐานการผลิตที่สอดคล้องกับแนวทางของโลกในอนาคตที่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม หากมีการพัฒนาสิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนที่ให้โอกาสธุรกิจเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง

ขณะที่การท่องเที่ยวนั้น ก็ถือเป็นจุดแข็งที่สุดของเครื่องยนต์เศรษฐกิจ เนื่องจากไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ดึงดูชาวต่างชาติ ซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวให้เป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เนื่องจากก่อนโควิดแพร่ระบาดนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย ก็มีผลต่อสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ฉะนั้น จะต้องดูแล เพื่อสร้างความยั่งยืนต่อไป

“จุดแข็งที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยสร้างงานให้กับประชาชนได้กว่า 5 ล้านคน ตลอดจนดูแลเอสเอ็มอีในห่วงโซ่อุปทาน และใน 4 อุตสาหกรรมข้างต้นนี้ ช่วยสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้มากกว่า 50% ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้มหาศาล ฉะนั้น ภาครัฐและภาคเอกชน จะต้องเข้าไปช่วยสนับสนุนทั้งในด้านการเงิน เทคโนโลยี และการจ้างงาน”

ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ในการเปลี่ยนผ่านทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และในส่วนที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินด้วย เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจมีการพัฒนา เปลี่ยนผ่านเข้าสู่เทรนด์ในอาคต ขณะเดียวกันการดำเนินธุรกิจของธนาคารเองก็จะต้องมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ด้วย

“ตอนนี้มีลูกค้ารายย่อยกว่า 1 ล้านราย ซึ่งเป็นคนไทยรุ่นใหม่ ที่ยังมีอาชีพฟรีแลนซ์ ซึ่งอาจจะไม่มีหลักประกันในการทำงาน ในส่วนนี้ธนาคารก็จะมีการประเมินศักยภาพของลูกค้า ซึ่งคนเหล่านี้หากได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารจะทำให้ชีวิตดีขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาประเทศในอาคตด้วย”