SET ลุ้นผล Fed แนวรับ 1,600-1,620 จุด

เช็กกระแสหุ้น
คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น

หุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 ก.ย.) ปรับตัวลดลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก

โดย “กิจพณ ไพรไพศาลกิจ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การปรับลดลงของตลาดหุ้นไทย รวมถึงหุ้นในฝั่งอาเซียนค่อนข้างจะน้อยกว่าตลาดหุ้นสหรัฐ หรือยุโรป อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปที่มีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น และอาจเป็นความเสี่ยงที่จะส่งผลให้ภาพของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนชะลอลง

ขณะที่ประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ส.ค.ที่รายงานออกมา 8.3% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ได้สร้างความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

มองไปในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า (19-24 ก.ย.) “กิจพณ” ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสชะลอตัวลงอีก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักกับความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการประชุมของเฟด ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ โดยล่าสุดมีการปรับคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 0.5-0.75% กลายเป็นว่า เฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1% ซึ่งจะสร้างความตกใจให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงได้

“หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5-0.75% เชื่อว่าตลาดรับรู้ข่าวนี้ไปพอสมควร อาจไม่ได้สร้างความรู้สึกตกใจต่อตลาดมาก ทั้งนี้ ถ้าออกมาแล้วเฟดไม่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงรอบนี้ หลังจากประชุมก็อาจจะเห็นตลาดเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นมาได้ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,600-1,620 จุด และแนวต้านที่ 1,650-1,670 จุด”

กลยุทธ์การลงทุน ด้วยภาพตลาดที่ยังมีความผันผวน ดังนั้น คงต้องเลี่ยงหุ้นที่มีแนวโน้มของผลการดำเนินงานที่อิงกับเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก อย่างหุ้นปิโตรเคมี, พลังงาน, อิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกัน หุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคภายในประเทศ จะเป็นกลุ่มที่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพียงแต่ว่านักลงทุนอาจจะต้องเลือกหุ้นรายตัวที่ราคายังปรับขึ้นไม่มาก ก็จะมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้มากกว่าตัวที่ปรับขึ้นไปก่อนแล้ว