หุ้น-การเงิน

รวม DR 10 ตัวในตลาดหลักทรัพย์ไทยปี 2565 ลงทุนหุ้นอะไรบ้าง?

วางแผนการเงิน (13)

รวม 10 DR หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่ซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงทุนในหุ้นอะไรกันบ้าง

วันที่ 19 กันยายน 2565 ต้องบอกว่าการลงทุนในโลกยุคปัจจุบัน มีเครื่องมือหรือตัวช่วยดี ๆ ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกและทำให้การลงทุนนั้นกลายเป็นเรื่องที่ง่ายและน่าสนใจมากขึ้น อย่างการลงทุนผ่าน DR (Depositary Receipt) หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากเริ่มต้นลงทุนในหุ้นหรือ ETF ต่างประเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยและลงทุนได้แบบเรียลไทม์

ปัจจุบันมี DR ให้ซื้อขายอยู่บนตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมด 10 ตัว จากธนาคารกรุงไทยและบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งเป็น 2 เจ้าที่เสนอขาย DR อยู่ในปัจจุบัน “ประชาชาติธุรกิจ” พามาเจาะลึก DR ทั้ง 10 ตัวว่าแต่ละตัวจะพานักลงทุนเข้าไปลงทุนในหุ้นอะไรกันบ้าง

เริ่มต้นจากฝั่งของบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง มี DR อยู่ทั้งหมด 6 ตัว ได้แก่

E1VFVN300

กระจายลงทุนในหุ้น เวียดนามขนาดใหญ่ 30 ตัว (คล้าย SET 50) ในหลายอุตสาหกรรม

  • หลักทรัพย์อ้างอิง : DCVFMVN30 ETF
  • ดัชนีอ้างอิง : VN30
  • จำนวนหุ้นในดัชนี : 30 หุ้น
  • อุตสาหกรรม 3 อันดับแรก : 1.การเงิน 43% 2.อสังหาฯ 21% 3.สินค้าจำเป็น 12%
  • หุ้น 3 อันดับแรก
  1. Vietnam Prosperity Bank (VPB) ให้บริการรับฝากเงิน แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการด้านสินเชื่อ สัดส่วนลงทุน  8%
  2. Vietnam Technological & Commercial Bank (TCB) เป็นผู้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยถูกจัดเป็นธนาคาร อันดับ 1 ในธุรกิจการปล่อยสินเชื่อบ้าน ธุรกิจการออกบัตรเครดิต และเดบิต รวมถึงธุรกิจนายหน้าขายประกัน สัดส่วนลงทุน 7%
  3. Vinhomes JSC (VHM) เป็นผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นบริษัทในเครือของ Vingroup สัดส่วนลงทุน 6%

FUEVFVND01

เน้นลงทุนในหุ้นเวียดนาม ชั้นนำที่นักลงทุนต่างชาติ เข้าไปลงทุนได้ยาก เนื่องจากติดข้อจำกัดด้าน FOL (Foreign Ownership Limit) หรือการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ 

  • หลักทรัพย์อ้างอิง : DCVFMVN DIAMOND ETF
  • ดัชนีอ้างอิง : VN DIAMOND
  • จำนวนหุ้นในดัชนี : 18 หุ้น
  • อุตสาหกรรม 3 อันดับแรก : 1.การเงิน 39% 2.สินค้าฟุ่มเฟือย 31% 3.เทคโนโลยี 15%
  • หุ้น 3 อันดับแรก
  1. Mobile World Investment Corporation (MWG)  จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ แท็บเลต แล็ปทอป อุปกรณ์เสริม สัดส่วนลงทุน 17%
  2. Phu Nhuan Jewelry Joint Stock Company (PJN) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับ สัดส่วนลงทุน 14%
  3. FPT Corporation (FPT) ให้บริการด้านการจำหน่ายมือถือและอุปกรณ์สื่อสาร สัดส่วนลงทุน 14%

NDX01

เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีระดับโลกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงหุ้นชั้นนำในอุตสาหกรรมอื่น

  • หลักทรัพย์อ้างอิง : ChinaAMC NASDAQ 100 ETF
  • ดัชนีอ้างอิง : NASDAQ 100
  • จำนวนหุ้นในดัชนี : 100 หุ้น
  • อุตสาหกรรม 3 อันดับแรก : 1.เทคโนโลยี 49% 2.สินค้าฟุ่มเฟือย 21% 3.สื่อสาร 9%
  • หุ้น 3 อันดับแรก
  1. Apple Inc (AAPL) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐ โดยปัจจุบันมีรายได้ทั้งจากการจำหน่ายสินค้าฮาร์ดแวร์ อาทิ iPhone, iPad, Apple Watch เป็นต้น สัดส่วนลงทุน 13%
  2. Microsoft Corporation (MSFT) บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก สัดส่วนลงทุน 10%
  3. Amazon.com Inc (AMZN) เว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา สัดส่วนลงทุน 7%

STAR5001

เน้นลงทุนในหุ้น A-share (ตลาดหุ้นจีน) เทคโนโลยีและนวัตกรรมขนาดกลางและเล็ก มีศักยภาพในการเติบโตสูง

  • หลักทรัพย์อ้างอิง : Premia China STAR50 ETF
  • ดัชนีอ้างอิง : STAR50
  • จำนวนหุ้นในดัชนี : 50 หุ้น
  • อุตสาหกรรม 3 อันดับแรก : 1.เทคโนโลยี 45% 2.อุตสาหการ 10% 3.การแพทย์ 8%
  • หุ้น 3 อันดับแรก
  1. Semiconductor Manufacturing International (SMIC) ผู้ผลิตชิปหรือเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของจีน สัดส่วนลงทุน 7%
  2. Trina Solar Co Ltd (Trina Solar) เป็นผู้ผลิต จำหน่าย และทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ PV, EPC และ O&M สัดส่วนลงทุน 7%
  3. Advanced Micro-Fabrication Equipment (AMEC) ผู้ผลิตเครื่องมือสำหรับการผลิตชิปและ LED ชั้นนำของจีน สัดส่วนลงทุน 4%

CN01

กระจายลงทุนในหุ้น A-share ขนาดใหญ่เติบโต ไปพร้อมกับภาพรวมเศรษฐกิจจีน

  • หลักทรัพย์อ้างอิง : ChinaAMCCSI 300 Index ETF
  • ดัชนีอ้างอิง : CSI 30
  • จำนวนหุ้นในดัชนี : 300 หุ้น
  • อุตสาหกรรม 3 อันดับแรก : 1.การเงิน 20% 2.อุตสาหการ 16% 3.สินค้าจำเป็น 15%
  • หุ้น 3 อันดับแรก
  1. Kweichow Moutai ทำธุรกิจผลิตและการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชื่อดังจากจีน สัดส่วนลงทุน 6%
  2. Contemporary Amperex Technolog (CAT) ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า สัดส่วนลงทุน 3%
  3. Ping An Insuranc (Ping An) บริษัทประกันที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีชื่อเสียงด้านประกันชีวิต  การประกันภัยทรัพย์สิน ธนาคาร และการลงทุน สัดส่วนลงทุน 3%

CNTECH01

เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับสากล

  • หลักทรัพย์อ้างอิง : ChinaAMC Hang Seng TECH Index ETF
  • ดัชนีอ้างอิง : CSI 30
  • จำนวนหุ้นในดัชนี : 30 หุ้น
  • อุตสาหกรรม 3 อันดับแรก : 1.เทคโนโลยี 73% 2.สินค้าฟุ่มเฟือย 11% 3.การแพทย์ 7%
  • หุ้น 3 อันดับแรก
  1. JD.com เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซจีนที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง สัดส่วนลงทุน 8%
  2. Tencent Holdings Ltd (Tencent) บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน สัดส่วนลงทุน 8%
  3. Xiaomi ผู้ผลิตและลงทุนเกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สัดส่วนลงทุน 8%

มากันที่ฝั่งของธนาคารกรุงไทยกันบ้าง ซึ่งเป็นอีก 1 เจ้าที่ออกหลักทรัพย์ DR ล่าสุดมี 4 ตัว ได้แก่

BABA80

เป็น DR รายแรกของไทยที่อ้างอิงกับหุ้นสามัญบริษัทชั้นนำ Alibaba Group ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง

หลักทรัพย์อ้างอิง : อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด

ลักษณะหลักทรัพย์อ้างอิง : เป็นหุ้นเทคยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนอันดับ 1 ของโลกในธุรกิจค้าปลีก ที่มีการเติบโตมาต่อเนื่อง รวมถึงขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือมากมาย ซึ่งครอบคลุมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน cloud computing และบริการขนส่ง และยังบุกตลาดนอกประเทศด้วย เช่น แอปพลิเคชั่น Lazada

BYDCOM80

ลงทุนในหุ้นสัญชาติจีนผู้นำด้านการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ระดับโลก

หลักทรัพย์อ้างอิง : บริษัท บีวายดี จำกัด (BYD Company Limited)

ลักษณะหลักทรัพย์อ้างอิง : เป็นบริษัทผู้นำด้านการผลิตรถพลังงานไฟฟ้า และแบตเตอรี่ระดับโลก ที่กำลังเติบโตมาก BYD ทั้งในตลาดจีน และในตลาดต่างประเทศ รวมถึงเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะตัว ที่เรียกว่า “Blade” ซึ่งมีความปลอดภัยสูงสุดในตลาดขณะนี้

XIAOMI80

ลงทุนหุ้นนวัตกรรมแห่งอนาคตไปกับหุ้น XIAOMI บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก

หลักทรัพย์อ้างอิง : บริษัท เสียวหมี่ คอร์ปอเรชั่น (Xiaomi Corporation)

ลักษณะหลักทรัพย์อ้างอิง : บริษัทขนาดใหญ่ของจีนที่มีการเติบโตสูง และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับโลก Xiaomi มีรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่าย สมาร์ทโฟน, เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไลฟ์สไตล์อื่น ๆ มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปีสูงถึง 26% และมียอดขายสมาร์ทโฟน เป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2021 คือ 191.2 ล้านเครื่อง เติบโต 28% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนรวมเติบโตเพียง 7%

TENCENT80

โอกาสลงทุน หุ้นเกม โซเชียล ระดับโลกไปกับ TENCENT

หลักทรัพย์อ้างอิง : บริษัท เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด จำกัด (Tencent Holdings Limited)

ลักษณะหลักทรัพย์อ้างอิง : ทำธุรกิจเกมและโซเชียลแพลตฟอร์มระดับโลก ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ดำเนินธุรกิจให้บริการทางด้านการสื่อสารเป็นหลัก เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ของจีนอย่างวีแชต (WeChat) มีบริการครอบคลุมกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีฟินเทค (Fintech) อย่าง WeChat Pay ที่มียอดธุรกรรมกว่าพันล้านธุรกรรมต่อวัน และเป็นบริษัทเกมระดับโลกอย่าง RoV, Clash of Clans และ PUBG

ทั้งนี้แม้ว่าการลงทุนผ่าน DR จะสะดวกและรวดเร็ว แต่การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยงเสมอ ซึ่งความเสี่ยงสำหรับการลงทุนใน DR ที่นักลงทุนทั้งมือใหม่และมือฉมัง ควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจลงทุน มีดังนี้

  • ความเสี่ยงจากผู้ออกตราสาร : เนื่องจากตราสารออกโดยสถาบันการเงินผู้ออก ผู้ลงทุนจึงควรต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอย่างถี่ถ้วน
  • ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาของสินทรพัย์อ้างอิงและ DR : ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจว่าตราสารอ้างอิงกับสินทรัพย์อะไร มีความผันผวน และทิศทางราคาอย่างไร และมีผลต่อราคา DR อย่างไร
  • ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : เพราะสินทรัพย์อ้างอิงเป็นหลักทรัพย์ต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในตัว และ DR บางตัวไม่มีการประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องการซื้อขาย : DR อาจไม่มีสภาพคล่องตลอดเวลาเพราะอาจต้องอิงกับเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศ

ดังนั้นการลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน