เฟดรัวขึ้นดอกเบี้ยกดดันราคาทอง YLG แนะลงทุนผ่านตลาดฟิวเจอร์ส

ราคาทอง

YLG แนะลงทุนทองคำผ่านตลาดฟิวเจอร์สเพิ่มช่องทางทำกำไร หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องถึงสิ้นปี ชี้ระยะสั้นราคาถูกกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้น มองกรอบแนวรับ 1,643-1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้าน 1,684-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการถือยาวสามารถใช้แนวรับ 1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดเข้าซื้อได้

วันที่ 22 กันยายน 2565 นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยล่าสุดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐพุ่งขึ้นไปที่ 3.0-3.25%

นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.25% ในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดสิ้นปีนี้อยู่ที่ 4.25-4.50% และสิ้นปีหน้า อยู่ที่ 4.50-4.75% ดังนั้นทิศทางราคาทองคำจึงจะได้รับแรงกดดันจากนโยบายดังกล่าว

เฟดรัวขึ้นดอกเบี้ยกดดันราคาทอง YLG แนะลงทุนผ่านตลาดฟิวเจอร์ส เพิ่มช่องทางทำกำไร

อย่างไรก็ดี การส่งสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ยดังกล่าว ก็ทำให้นักลงทุนทองคำสามารถปรับรูปแบบการลงทุนให้สอดคล้องไปทิศทางเดียวกัน ด้วยการลงทุนผ่านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพราะเป็นการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้ทั้งภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง หากนักลงทุนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและคาดว่าแนวโน้มทิศทางราคาทองคำจะไปในด้านใด ก็สามารถเปิดสถานะการลงทุนได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

นอกจากนี้ ข้อดีของการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สคือใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก ด้วยการวางเงินประกันเพียง 5-10% ของมูลค่าสัญญา โดยวายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สทั้ง TFEX ของไทย และตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศ โดยปัจจุบัน YLG ได้ร่วมมือกับ CME Group เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เทรดผ่าน YLG Futures สามารถเข้าถึงทุกสินค้าของ CME Group ทุกบริการ

เช่น Precious Metal Futures, Oil Futures, Cryptocurrency Futures, Forex Futures ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งกองทุนสถาบันในการเข้าไปซื้อขายสินค้า พร้อมเชื่อมต่อ Exchange ทั่วทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ ทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรสามารถจัดการกับความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น

ส่วนแนวโน้มความเคลื่อนไหวราคาทองคำในระยะสั้น วายแอลจีมองว่าแม้ว่าระยะสั้นราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากประเด็นดอกเบี้ยขาขึ้น แต่นักลงทุนยังสามารถทำกำไรได้ตามรอบ ในกรอบแนวรับ 1,643-1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้าน 1,684-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการถือยาวนั้นสามารถใช้แนวรับ 1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดเข้าซื้อได้

ส่วนราคาทองคำในประเทศนั้น มองว่าจะยังทรงตัวในกรอบ 28,500-30,000 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากสัญญาณค่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยผลกระทบเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยที่ต่างจากสหรัฐมากขึ้น อย่างไรก็ดี แนะจับตาการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 28 กันยายนนี้