คลังจ่อเพิ่มเงินสมทบ กอช. สมาชิกเกษียณรับบำนาญ 2 หมื่นบาท/เดือน

กอช.

คลังเล็งเพิ่มเงินสมทบ กอช. หนุนประชาชนออมเงิน มีรายได้หลังเกษียณ คาดสมาชิกรับเงินบำนาญสูงสุด 2 หมื่นบาท/เดือน หลังจากปัจจุบันรับเพียง 7 พันบาท/เดือน

วันที่ 29 กันยายน 2566 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาแนวทางการใส่เงินสมทบจากฝั่งของรัฐบาลให้แก่สมาชิกและการออมของสมาชิก เพื่อให้รายได้จากการออมภายหลังการเกษียณของสมาชิกมีเพียงพอในการดำรงชีพ

“หากเราอยากจะให้คนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับผลตอบแทนในลักษณะบำนาญ อาจต้องมีการเพิ่มการมีส่วนร่วมจากการใส่เงินสมทบในฝั่งรัฐบาลและสมาชิก”

สำหรับจำนวนเงินสมทบที่รัฐบาลจะต้องใส่เพิ่มให้แก่สมาชิกนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการสรุป แน่นอนว่าจะต้องเป็นจำนวนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากวงเงินงบประมาณที่รัฐบาลจะต้องจ่ายให้ในแต่ละปี ขณะเดียวกัน จะต้องเป็นจำนวนที่จูงใจให้ประชาชนเข้ามาออมเงินผ่าน กอช.ด้วย

“แน่นอนว่าตัวเลขเงินสมทบก็ต้องเพิ่มขึ้น เรากำลังดูตัวเลขที่เหมาะสม เพื่อเป็นหลักประกันว่า บั้นปลายชีวิตหลังเกษียณจะมีรายได้เพียงพอ โดยรายได้ต่อเดือนจะต้องดีขึ้น ซึ่งรัฐต้องจ่ายในลักษณะที่เพียงพอและจูงใจ หากกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเสร็จจะได้มีการเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป”

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กอช.กำหนดเงื่อนไขการใส่เงินสมทบแก่สมาชิกตามช่วงอายุ กล่าวคือ อายุตั้งแต่ 15-30 ปี รัฐบาลจ่ายเงินสมทบ 50% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อปี อายุมากกว่า 30-50 ปี รัฐบาลจ่ายเงินสมทบ 80% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 960 บาทต่อปี อายุมากกว่า 50-60 ปี รัฐบาลจ่ายเงินสมทบ 100% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี

ส่วนเงื่อนไขการออมของสมาชิกนั้น กำหนดว่า จะต้องออมขั้นต่ำ 50 บาท และ สูงสุดไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี ปัจจุบัน กอช.มีสมาชิกประมาณ 2.38 ล้านราย แบ่งผู้ออมในภาคเหนือ 10.50% ภาคกลาง 23.46% ตะวันออกเฉียงเหนือ 44.99% ภาคตะวันตก 4.42% ภาคตะวันออก 5.30% และภาคใต้ 11.33%


แหล่งข่าวจากคณะกรรมการ กอช.กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องการเห็นยอดเงินบำนาญของสมาชิก กอช.ภายหลังการเกษียณที่ 15,000-20,000 ต่อเดือน สำหรับผู้ที่เริ่มออมตั้งแต่อายุ 15-60 ปี จากปัจจุบันยอดเงินบำนาญอยู่ที่ 3,000-7,000 บาทต่อเดือน โดยที่ภาระต่องบประมาณจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก