แบงก์-น็อนแบงก์ ขนนวัตกรรมการเงินโชว์งาน BOT Digital Finance Conference 2022

BBL ธนาคารกรุงเทพ

สถาบันการเงิน (แบงก์-น็อนแบงก์) ตบเท้าร่วมงาน “BOT Digital Finance Conference 2022” ของ ธปท. โชว์นวัตกรรมการเงินช่วยให้ชีวิตยุคดิจิทัลง่ายขึ้น

วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงาน BOT Digital Finance Conference 2022 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคมนี้ ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธปท. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนระบบการเงินดิจิทัลภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินใหม่ ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างเป็นรูปธรรม บรรดาสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (น็อนแบงก์) ต่างนำนวัตกรรมด้านการเงินที่ทันสมัยเข้าร่วมนำเสนอในงานดังกล่าว

ธนาคารกรุงเทพ โชว์ 5 บริการเด็ด

เริ่มจากธนาคารกรุงเทพที่ได้นำเสนอนวัตกรรมทางการเงินยุคใหม่ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น สามารถทำธุรกรรมสำคัญต่าง ๆ ผ่านโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจ

โดยบริการเด่นที่ธนาคารได้นำมาแสดงภายในงานนี้ ประกอบด้วย 5 บริการเด็ด ประกอบด้วย

บริการเปิดบัญชีออนไลน์ ผ่านโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ – นวัตกรรมที่ช่วยให้การเปิดบัญชีง่ายขึ้น ไม่ต้องกรอกเอกสารใด ๆ และไม่ต้องเดินทางไปสาขา เปิดได้ทั้งบัญชีเงินฝาก e-Savings สำหรับทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน จ่าย โอน ถอน, บัญชีกองทุนรวม, บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์, บัญชีพันธบัตร และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ (FCD e-Savings) สำหรับผู้ที่มีรายรับเป็นสกุลเงินต่างประเทศ เช่น US Dollar สามารถออมไว้ในบัญชีนี้และเลือกแปลงเป็นสกุลเงินบาทได้ในวันที่พอใจกับอัตราแลกเปลี่ยน

บริการยืนยันตัวตน ผ่านโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ – หนึ่งในบริการสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชีต่าง ๆ ได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องไปสาขา เพียงเปิดบัญชีออนไลน์ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และเลือกวิธียืนยันตัวตนตามต้องการได้ถึง 3 รูปแบบ คือ 1) ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน ณ จุดบริการ (Be My ID) เช่น Kerry Express หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven 2) ยืนยันตัวตนโดยใช้ข้อมูลจากธนาคารอื่นที่ร่วมโครงการ (NDID) หรือ 3) ยืนยันตัวตนด้วยเบอร์มือถือ ผ่านแอป atta โดยธนาคารกรุงเทพ (Mobile ID) เมื่อสมัครใช้บริการที่ AIS Shop, dtac Center และ True Shop

บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล และบัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล แรบบิท ไลน์ เพย์ – บริการบัตรเดบิตยุคใหม่ที่เข้าใจคนยุคดิจิทัล ให้ช็อปออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย มีทั้งบัตร Digital ที่แสดงข้อมูลอยู่ในโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และเลือกใช้คู่กับบัตรพลาสติกที่มีฟังก์ชั่น Contactless ที่แตะเพื่อชำระเงินได้ทันที ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวก โดยบัตรพลาสติกจะมีเพียงชื่อผู้ถือบัตรเท่านั้น ไม่แสดงข้อมูลหมายเลขบัตรแต่อย่างใด นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถทำทุกอย่างผ่านแอปตั้งแต่สมัครบัตร ไปจนถึงการอายัดบัตรได้สะดวก รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังมาพร้อมกับความคุ้มค่าด้วยโปรโมชั่นส่วนลดและเงินคืน สำหรับการใช้จ่ายผ่านร้านค้า/แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ร่วมรายการ

บริการซื้อประกันชีวิตออนไลน์จาก AIA ผ่านโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ – ที่จะเปลี่ยนวิธีการซื้อประกันชีวิตให้เป็นแบบใหม่ ตั้งแต่ค้นหาความต้องการและนำเสนอรูปแบบประกันชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนได้อย่างเฉพาะเจาะจง หรือ Personalized เลือกรูปแบบการจ่ายเบี้ยประกันได้ทั้งแบบรายเดือนและรายปี ทั้งสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องไปสาขา ไม่ต้องกรอกเอกสารที่ยุ่งยาก และคุ้มค่ายิ่งขึ้นกับโปรโมชั่นที่มอบให้แก่ลูกค้าที่ซื้อผ่านช่องทางนี้เป็นพิเศษอีกด้วย

บริการชำระเงินผ่าน QR Code ข้ามพรมแดน (Cross-Border) – บริการที่ช่วยให้การชำระเงินค่าสินค้าและบริการในต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องวุ่นวายกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เพียงแค่สแกน QR Code ผ่านโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ก็สามารถชำระเงินเป็นเงินสกุลท้องถิ่นนั้น ๆ ได้ทันที (Outbound) หรือนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย เพียงสแกน PromptPay QR Code ก็ชำระค่าสินค้าให้ร้านค้าในไทยได้เช่นกัน (Inbound) ที่สำคัญ ลูกค้าจะทราบอัตราแลกเปลี่ยนทันทีขณะทำรายการอีกด้วย รองรับได้หลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชา (ปัจจุบัน กัมพูชา เปิดบริการเฉพาะ Inbound)

ไทยพาณิชย์ โชว์นวัตกรรม CBDC

ขณะที่ ดร.ชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมออกบูทภายใต้แนวคิด “THE FUTURE IS NOW” นำเสนอเทคโนโลยีการเงินแห่งโลกอนาคตที่คัดสรรมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ พร้อมชูนวัตกรรม สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางเพื่อให้ประชาชนใช้งาน (Retail CBDC) นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินครั้งสำคัญที่จะเชื่อมโอกาสจากทั่วทุกมุมโลกมาสู่ประเทศไทยอย่างไร้พรมแดน

พร้อมนำเสนอโซลูชั่นทางการเงินที่รองรับทุกความต้องการในการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ และตอบโจทย์การทำธุรกิจในโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประสบการณ์การเงินรูปแบบใหม่ และรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของการเงินแห่งโลกอนาคตที่กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ และสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อภาคการเงินของประเทศไทย

สำหรับผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทางการเงินที่น่าสนใจ โดย ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้แก่

สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางเพื่อให้ประชาชนใช้งาน (Retail CBDC) : เงินในรูปแบบธนบัตรที่ถูกพัฒนาให้กลายสภาพเป็นรูปแบบเงินดิจิทัล ทำให้การถือ Retail CBDC เทียบเท่ากับการถือธนบัตร ไม่มีความเสี่ยง พร้อมช่วยเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจ ด้วยเครือข่ายการชำระเงินที่หลากหลาย โปร่งใส และสามารถพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ พร้อมช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่สะดวกและมีทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

บริการสรุปค่าใช้จ่ายรายเดือน “JUST4U” : ผู้ช่วยด้านการเงินส่วนตัวอัจฉริยะที่สรุปยอดทั้งเงินเข้า-เงินออก ในแต่ละเดือนแบ่งตามหมวดหมู่การใช้จ่าย พร้อม Insight ส่วนตัวที่ไม่ซ้ำใคร รวมถึงข้อแนะนำทางการเงินต่าง ๆ ให้ทุกเดือน

“SPRING UP” (สปริงอัพ) : ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพครบวงจร ด้วยแผนโภชนาการ (Food) และแผนการออกกำลังกาย (Fitness) ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล พร้อมคลายความกังวลเมื่อเจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพ ด้วยบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) สะดวก ใช้งานง่าย

“สินเชื่อมณีทันใจ” : สินเชื่อเพื่อธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ กู้ง่าย อนุมัติไว ไม่ต้องใช้เอกสาร

กรุงศรี ชูนวัตกรรมหนุนใช้ชีวิตง่ายขึ้น

ด้านนายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า นวัตกรรมจากกรุงศรีที่จะทำให้การใช้ชีวิตของลูกค้าในทุก ๆ วันง่ายขึ้น ประกอบด้วย

1.Krungsri CBDC – นวัตกรรมการเงินที่จะนำพาเงินบาทก้าวไปอีกขั้น โดยกรุงศรีเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินแห่งแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ทดสอบนำร่องการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางภาคประชาชน (Retail CBDC) และการทดสอบการนำสกุลเงินดิจิทัลที่อกโดยธนาคารกลางในระดับสถาบันการเงิน (Wholesale CBDC) สะท้อนถึงความพร้อมและความเชี่ยวชาญในด้านดิจิทัลแบงกิ้งของกรุงศรีอย่างแท้จริง

2.Kept by krungsri – นวัตกรรมการบริหารเงินในรูปแบบแอปพลิเคชั่นที่จะทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องง่าย และสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้จริง

3.GO by Krungsri Auto – แอปพลิเคชั่นไลฟ์สไตล์เพื่อคนมีรถ ตอบโจทย์ด้วยหลากหลายฟีเจอร์ตั้งแต่การสมัครขอสินเชื่อ การรับคำปรึกษาด้านประกันภัยอุบัติเหตุ เช็กราคาน้ำมัน บริการและสิทธิประโยชน์ที่ช่วยให้ชีวิตของคนมีรถง่ายและสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม

4.QR Cross-border Payment – นวัตกรรมการโอนเงินต่างประเทศให้การเดินทางท่องเที่ยวและช็อปปิ้งในต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะท่องเที่ยวในญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ก็สามารถใช้ Krungsri Mobile App สแกนจ่ายค่าสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้ ง่าย สะดวก และปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก

5.เฟิร์สช้อยส์ สแนปแคช (First Choice Snap Cash) สินเชื่อดิจิทัล สำหรับวันที่จำเป็นต้องใช้เงินสามารถสมัครผ่านออนไลน์ได้ง่าย ๆ โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว รู้ผลไวภายใน 5 นาที ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มอาชีพอิสระซึ่งต้องการเข้าถึงสินเชื่อ

6.Krungsri AI Voice & Chatbot ทำให้การพูดคุยหรือสอบถามเรื่องธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ง่ายขึ้น ทั้ง Bella (เบลล่า) และ Manow (มะนาว) ตัวช่วยที่สามารถตอบข้อซักถามเรื่องของการทำธุรกรรมการเงินได้อย่างแม่นยำและครบถ้วน

7.Krungsri API นวัตกรรมการเชื่อมต่อระหว่างธนาคารหรือพาร์ตเนอร์ ช่วยให้การทำธุรกิจหรือการชำระเงินระหว่างกันเป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว สร้างประสบการณ์การชำระเงินที่เหนือกว่า

เคทีซี ชู “MAAI by KTC”

ฟากนางประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า MAAI by KTC มีความยินดีที่ได้มาร่วมออกบูทในงาน “BOT Digital Finance Conference 2022” โดยครั้งนี้บูท MAAI by KTC จะนำเสนอแนวคิด “Digital CRM Platform” ซึ่งเป็นลอยัลตี้ แพลตฟอร์มที่ให้บริการกับพันธมิตรธุรกิจแบบครบวงจรในการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าสมาชิก เพื่อนำเสนอต่อกลุ่มธุรกิจที่กำลังมองหาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ

“เราเชื่อว่าด้วยจุดแข็งของการมีร้านค้าสมาชิกรับแลกคะแนนหลากหลายครอบคลุมทั่วประเทศ มี Ecosystem ที่สมบูรณ์ แพลตฟอร์ม MAAI by KTC จะสามารถตอบความต้องการของธุรกิจได้ทุกมิติ โดยให้พันธมิตรธุรกิจสามารถต่อยอดซึ่งกันและกันได้ไม่มีที่สิ้นสุด”

“MAAI by KTC” “มาย” มาจากคำว่ามากมาย เพื่อสื่อถึงสิทธิประโยชน์มากมายที่สมาชิกจะได้รับ เป็นการต่อยอดความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญของเคทีซีในการทำระบบคะแนนสะสม MAAI สู่บริการลอยัลตี้ แพลตฟอร์มแบบพร้อมใช้และครบวงจร เพื่อนำเสนอให้กับธุรกิจ B2B ซึ่งมาพร้อมกับระบบบริหารจัดการข้อมูลสมาชิก การจัดการระบบคะแนนสะสม ทั้งการบริหารจัดการคะแนนของพันธมิตร (Native Point) และการบริหารจัดการคะแนน MAAI

อีกทั้งยังเชื่อมต่อการแลกคะแนนสะสมระหว่างคะแนน MAAI และคะแนนของพันธมิตร เพื่อเพิ่มมูลค่าและอิสระในการแลกคะแนน และการจัดการคูปองอิเล็กทรอนิกส์ (E-Coupon) เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาเครื่องมือคุณภาพในการทำ CRM (Customer Relationship Management)

ทั้งนี้ ภายในงาน MAAI by KTC ยังได้จัดโปรโมชั่นที่คัดสรรมาเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมบูทได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากการใช้แอป MAAI by KTC ร่วมกับพันธมิตรการตลาดที่มาร่วมออกบูท เพียงดาวน์โหลด “MAAI by KTC” ที่ https://ktc.promo/maai-app-news และใช้คะแนนเริ่มต้น 350 MAAI Points ก็สามารถแลกซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ อาทิ 350 คะแนน MAAI แลกรับขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย ขนมเบื้องมิชลิน ภายใต้กลุ่มร้านอาหารเครือ Kouen Group มูลค่า 150 บาท 450 คะแนน MAAI แลกรับป็อปคอร์น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ขนาด 64 Oz. มูลค่า 170 บาท

หรือแลกคะแนน MAAI เป็นส่วนลดซื้อสินค้า Gadget ราคาพิเศษจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่จำหน่ายใน USHOPอาทิ AIWA Thailand, Aukey Thailand, Anitech, Elago Thailand โดย 1,000 คะแนน MAAI ใช้เป็นส่วนลด 200 บาท ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2565 นี้ ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KTC

กรุงไทย “ติดปีกการเงินดิจิทัล สู่อนาคต”

ฟากธนาคารกรุงไทยโชว์ศักยภาพการพัฒนานวัตกรรมและบริการทางการเงินดิจิทัลแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “ติดปีกการเงินดิจิทัล สู่อนาคต” ภายในบูท รูปทรงเรขาคณิตแบบสมมาตร เปรียบเสมือนปีกนกขนาดใหญ่ที่โอบอุ้มชีวิตคนไทย โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 โซน

โซนที่ 1 นวัตกรรมการเงินสำหรับภาคประชาชน ธนาคารพัฒนาบริการดิจิทัล ตอบโจทย์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ ประกอบด้วยแอปพลิเคชั่น

– Krungthai NEXT ภายใต้แนวคิด “ใช้ชีวิตให้เก่งขึ้นในแอปเดียว” ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่เป็นมากกว่าธนาคาร บนมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ครอบคลุมบริการด้านชำระเงิน การลงทุน และการโอนเงินระหว่างประเทศ ก้าวสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบ (The Full Scale Digital Banking) พร้อมนำระบบ Cloud Native มาใช้เป็นธนาคารแรกของประเทศ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพ และความรวดเร็วในการใช้งาน รองรับจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 17 ล้านคน

– ติดปีกให้การเดินทางด้วย Krungthai Tranxit Card บัตรเดบิตที่ทำให้การชำระค่าโดยสารทุกการเดินทาง เป็นเรื่องง่าย สะดวก และรวดเร็ว สามารถแตะจ่ายได้ทั้งรถเมล์ เรือโดยสาร รถไฟฟ้า และทางด่วน ครบ จบ ในบัตรเดียว ตอบโจทย์นโยบายตั๋วโดยสารร่วมของรัฐบาล และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่สังคมไร้เงินสด

– พัฒนา Smart University ผ่าน UApp (University Application) แอปพลิเคชั่นที่รวมทั้งเรื่องเรียน ไลฟ์สไตล์ และการใช้จ่ายไว้ในที่เดียว เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างสะดวกสบายและคล่องตัว ทั้งนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร โดยการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัย กับระบบรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารแบบครบวงจร ปัจจุบันได้ร่วมพัฒนาและเปิดใช้บริการกับ 14 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

โซนที่ 2 นวัตกรรมการเงินสำหรับบริการภาครัฐ นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของภาครัฐ เพื่อยกระดับการบริการภาคประชาชน และภาคธุรกิจ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ ประกอบด้วย

– ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยยกระดับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้รวดเร็ว โปร่งใส ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการในการเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs พร้อมระบบการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ช่วยยืนยันตัวตนผู้ค้าภาครัฐ ลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการในขั้นตอนการลงทะเบียน ยกระดับการทำธุรกรรมการค้ากับภาครัฐให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลครบวงจร

– เพิ่มความมั่นใจให้ธุรกิจ ด้วยหนังสือค้ำประกันกรุงไทยรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Krungthai e LG) รวดเร็ว มั่นใจ อนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง มั่นใจด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่มีความโปร่งใส ลดความยุ่งยาก ซับซ้อนจากขั้นตอนเอกสาร อีกทั้งยังเชื่อมต่อบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์จากระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (e-GP) ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย มั่นใจได้ว่า ไม่เกิดการรั่วไหลของข้อมูล ทำให้บริษัทชั้นนำในประเทศกว่า 170 บริษัทตอบรับใช้บริการ

โซนที่ 3 นวัตกรรมการเงินสำหรับภาคธุรกิจ พัฒนาระบบบริการจัดการทางการเงินดิจิทัลครบวงจร เสริมความแข็งแกร่งสำหรับผู้ประกอบการ ต่อยอดโอกาส สร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย

– PromptBiz สนับสนุนการทำธุรกรรมการค้าให้เป็นดิจิทัลครบวงจร โดยเชื่อมโยงข้อมูลการค้าและการชำระเงินของภาคธุรกิจ เข้ากับข้อมูลผู้ให้บริการทางการเงินและระบบภาษีของภาครัฐ แก้ปัญหาการทำธุรกิจแบบเดิมที่ยังใช้เอกสารกระดาษ มีต้นทุนสูง มีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ง่าย และยังเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs

– Krungthai Business ระบบจัดการด้านการเงินสำหรับธุรกิจ ง่าย ครบ จบในแอป เดียว โอนรับจ่าย ฟรี ไม่อั้น เหมาจ่ายเริ่มต้น 111 บาทต่อปี

– โครงการ Point Pay เพื่อช่วยเหลือร้านค้าขนาดเล็กทั่วประเทศ โดยเปิดให้ลูกค้าพันธมิตรทั้งเอไอเอส เคทีซี และบางจาก สามารถใช้คะแนนสะสม จ่ายแทนเงินสดในร้านค้าถุงเงิน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 1.7 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ธนาคารเสริมทัพบริการทางการเงินให้แก่ภาคธุรกิจ ด้วย สินเชื่อคู่ค้าพารวย ภายใต้โครงการ Digital Supply Chain Financing เสริมสภาพคล่องเพื่อประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ ด้วยวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี อัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 0.80% ต่อเดือน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน กู้ได้สูงสุด 3 เท่าของ ยอดซื้อ สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท สะดวกเบิกใช้วงเงินผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Krungthai Business และ Krungthai NEXT

สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมร่วมกับกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อลงทุนในระบบบำบัดของเสียในธุรกิจ กิจการยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี สินเชื่อธุรกิจเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมเพื่อการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ลดต้นทุนให้ธุรกิจด้วยพลังงานสะอาด ให้วงเงินสูง ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี ดอกเบี้ยเริ่มต้น MRR-1% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักประกัน สินเชื่อ Robotic and Automation เพิ่มยอดผลิตได้ดังใจด้วยระบบอัตโนมัติ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี