จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ-ประชุมบีโอเจ ดันเงินบาทเคลื่อนไหว 35.20 บาท

เงินบาท

กรุงไทย มองกรอบเงินบาทเคลื่อนไหว 34.50-35.20 บาทต่อดอลลาร์ ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อ-ผู้รับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณต่อนโยบายการเงินเฟด จับตาประชุมบีโอเจ-ตัวเลขส่งออก-นำเข้าไทยมีผลต่อค่าเงินบาท

วันที่ 11 ธันวาคม 2565 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 19-23 ธันวาคม 65) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.50-35.20 บาทต่อดอลลาร์ 

โดยปัจจัยที่ต้องติดตามอัตราเงินเฟ้อ PCE (Core PCE Price Index) เดือนพฤศจิกายนและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวที่ตลาดติดตามว่าจะเป็นอย่างไร เพราะจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่จะรอดูว่าแบนด์บอนด์ยีลด์ เพื่อให้การทำมาตรการมาตรดารผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คล่องตัว ซึ่งอาจจะมีผลต่อค่าเงินเยน (Yen) รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น ขณะที่ในประเทศจะมีตัวเลขนำเข้าและส่งออก หากตัวเลขออกมาแย่มากอาจจะมีผลต่อค่าเงินบาทได้ 

ขณะที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 ธ.ค.65) พบว่า ตลาดหุ้นซื้อสุทธิ 3,200 ล้านบาท และพันธบัตร (บอนด์) ซื้อสุทธิ 7,800 ล้านบาท 

โดยในทิศทางในสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดหุ้นยังคงมีปัจจัยที่น่าสนใจ จึงมีความเสี่ยงเห็นแรงเทขายได้เล็กน้อย แต่จะเห็นแรงกลับมาได้เล็กน้อยเช่น จึงคาดว่าโดยรวมยังคงเป็นโฟลว์ไหลเข้าประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท 

ขณะที่ตลาดบอนด์ จะเห็นว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมามีแรงซื้อสุทธิค่อนข้าเยอะ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทแข็ง อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวเงินบาทลงมาพอสมควร จึงเห็นการเก็งกำไงค่าเงินบาทน้อยลง โดยบอนด์ตัวยาวจะค่อนข้างนิ่งๆ เพราะผลตอบแทน (ยีลด์) ขึ้นไปพอสมควร แต่อาจเห็นการเก็งกำไรตัวสั้นอยู่บ้าง

“เรามองกรอบค่าเงินทรงตัวเท่าสัปดาห์ที่ผ่านมาในกรอบ 34.50-35.30 บาทต่อดอลลาร์ หากไม่มีปัจจัยพิเศษอะไรเข้ามา แต่หากมีแฟคเตอร์เข้ามาแนวต้านจะอยู่ที่ 35.50 บาทต่อดอลลาร์”