
POMPUI แจ้งการผิดนัดชำระหนี้ ‘ธนาคารกรุงไทย’ มียอดค้างชำระเงินต้น 263 ล้านบาท ดอกเบี้ยค้างชำระ 62 ล้านบาท เบี้ยปรับผิดนัด 20 ล้านบาท คาดบรรลุข้อตกลงแผนปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ภายในเดือน ม.ค. 66
วันที่ 30 ธันวาคม 2565 นางสาวศิริพร โตทับเที่ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ POMPUI รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า
- EV จีนทุบราคาเลือดสาด ฉางอานท้ารบ-BYD เกทับลดอีกแสน
- รู้จัก น้ำมัน EURO 5 เริ่มใช้ 1 ม.ค. 67 มีผลกับค่าการตลาดน้ำมันอย่างไร
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
ตามที่บริษัทโดยผู้บริหารที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น ได้ทำสัญญาการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เลขที่ J 74 01006/49 (ครั้งที่ 7) ซึ่งเป็นบันทึกแนบท้ายสัญญาฉบับล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 กับธนาคารกรุงไทย (KTB) สำนักงานธุรกิจตรัง โดยมีเงินต้นรวม 488 ล้านบาท และดอกเบี้ย 369 ล้านบาท (ในส่วนนี้แปลงหนี้เป็นทุน 310 ล้านบาท คงเหลือดอกเบี้ยคงค้าง 62 ล้านบาท และดอกเบี้ยปรับผิดนัดชำระ 20 ล้านบาท)
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 บริษัทมีคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้าบริหารงานแทนผู้บริหารชุดเดิมทั้งหมด จึงได้ทราบว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้ธนาคารตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา โดยเป็นการค้างชำระเงินต้น แต่มีการชำระดอกเบี้ยมาโดยตลอด จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ธนาคารได้แจ้งให้บริษัทหยุดการชำระดอกเบี้ย เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดสิ้นสุดสัญญาในเดือนมีนาคม 2565 และจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่
ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้พักการชำระหนี้ และเจรจาและประสานงานกับธนาคารถึงแนวทางต่าง ๆ ในการแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารมาโดยตลอด ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 บริษัทได้ชำระหนี้เงินต้นไปแล้วทั้งสิ้น 224 ล้านบาท และดอกเบี้ย 133 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดค้างชำระเป็นเงินต้น 263 ล้านบาท ดอกเบี้ยค้างชำระ 62 ล้านบาท เบี้ยปรับผิดนัด 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 11/2565 ได้มีมติแต่งตั้งบริษัท เพลินจิต แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทในการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร รวมถึงเป็นตัวแทนบริษัทเพื่อเจรจาการปรับโครงสร้างหนี้กับทางธนาคาร และเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ในศึกษาแนวทางการขอขยายเวลาการดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติ เพื่อกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Resume Trading)
โดยบริษัท เพลินจิต แคปปิตอล จำกัด ในฐานะตัวแทนของลูกหนี้ ได้ประชุมร่วมกับธนาคาร ในฐานะเจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาแนวทางของแผนการปรับโครงสร้างหนี้ที่ต้องดำเนินการแก้ไขใหม่ ให้สอดคล้องกับความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทในปัจจุบันและอนาคต ตามที่ผู้บริหารชุดใหม่ได้เจรจาไว้ ซึ่งทางธนาคารอยู่ระหว่างนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมของธนาคาร และบริษัทจะนำแผนปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณา โดยคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงของแผนปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ภายในเดือนมกราคม 2566