ต่างชาติกระหน่ำซื้อหุ้นไทยปี’65 ทะลัก 1.9 แสนล้าน สูงสุดในรอบ 30 ปี

หุ้น

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวก สวนทางตลาดหุ้นทั่วโลก หนุนดัชนี SET Index เดือน ธ.ค. 2565 ปิดที่ระดับ 1,668.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.0% จากเดือนก่อนหน้านับว่าโดดเด่นสุดในภูมิภาค ด้านต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งปีอยู่ที่ 196,886 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 ปี

วันที่ 10 มกราคม 2566 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นอาเซียน โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก จากเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ประกอบกับข่าวดีที่ประเทศต่าง ๆ ทยอยเปิดประเทศ โดยนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และกลับไปสู่ระดับช่วงก่อนการแพร่ระบาด COVID-19

ในขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า โดยผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งปีอยู่ที่ 196,886 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่มีการเผยแพร่ข้อมูลนี้ในปี 2535

“ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่อยู่ในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อีกทั้งความเสี่ยงจากการเกิด recession ในหลายประเทศเร่งตัวเพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยลบทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับเชิงลบและปรับตัวลดลงตลอดปี แต่ SET Index กลับมีความผันผวนที่น้อยกว่าและเป็นดัชนีเพียงไม่กี่ดัชนีในโลกที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในปี 2565” นายศรพลกล่าว

โดยในปี 2565 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 SET Index ปิดที่ 1,668.66 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.0% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.7%

ทั้งนี้ในปี 2565 ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนตั้งแต่ปี 2555 แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันจะปรับลดลงมาจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในภูมิภาค ในเดือนธันวาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 56,184 ล้านบาท ลดลง 27.3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และในปี 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 76,773 ล้านบาท

ด้านการระดมทุนในปี 2565 ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีมูลค่าการเสนอขายไอพีโอ (IPO) สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ในเอเชีย โดยมีบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนจากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยในเดือนธันวาคม 2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 5 หลักทรัพย์ และ 1 กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า และใน mai 4 หลักทรัพย์ ทำให้มูลค่าการเสนอขายในหุ้นไอพีโอ (IPO) ของไทยปี 2565 อยู่ที่ 127,836 ล้านบาท

ในส่วนของ Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 16.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.2 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 14.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.0 เท่า ในขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.76% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.16%

ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในปี 2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 565,627 สัญญา เพิ่มขึ้น 0.9% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้น SET50 Index Futures โดยในเดือนธันวาคม 2565 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 690,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.7% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures