หุ้นไทยไร้ปัจจัยใหม่ ฟันด์โฟลว์เริ่มแผ่ว ลุ้น ครม.ต่ออายุลดภาษีดีเซล

หุ้น พลังงาน

บล.ฟิลลิป ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงรอปัจจัยใหม่ ๆ แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,675-1,695 จุด สัญญาณฟันด์โฟลว์เริ่มแผ่วลง หลังซึมซับเปิดประเทศของจีนมาระยะหนึ่งแล้ว ลุ้น ครม.ต่ออายุลดภาษีน้ำมันดีเซล หวังท่องเที่ยวจับจ่ายตรุษจีนคึกคัก ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีน จับตาประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น แนะหุ้นเด่นวันนี้ KTB-MAKRO

วันที่ 17 มกราคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า คาดดัชนี SET Index วันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,675-1,695 จุด ตลาดยังคงรอปัจจัยใหม่ ๆ มาขับเคลื่อนตลาดหลังซึมซับปัจจัยเดิมอย่างการเปิดประเทศของจีนมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่เงินทุนต่างชาติแม้ยังคงไหลเข้าต่อเนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่ากว่าปีก่อน แต่แรงซื้อสุทธิจากต่างชาตินั้นเริ่มแผ่วลงแล้ว

สำหรับปัจจัยในประเทศ เทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงมีแนวโน้มคึกคักกว่าปีก่อนหน้าจากการผ่อนคลายมาตรการที่เกี่ยวกับโควิด ประกอบกับนักท่องเที่ยวจีนที่มาเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ จะเป็นอานิสงส์ทางบวกต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย ท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องในช่วงเทศกาลดังกล่าว

               

ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้มีลุ้นมาตรการต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยกระทรวงการคลังจะเสนอต่ออายุลดภาษีดีเซล ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อการบริโภคเอกชน ด้านต่างประเทศติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในวันนี้ โดยตลาดคาด GDP ไตรมาส 4/2565 จีนจะขยายตัว 1.6% เทียบปีก่อน จากไตรมาส 3/2565 ที่ 3.9%

แม้ตัวเลขอาจดูชะลอตัวลงแต่คาดตลาดได้รับไปบ้างแล้วและมองไปข้างหน้ามากกว่าอดีต นอกจากนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพรุ่งนี้ อาจเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดได้ หลังหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า BOJ อาจมีการปรับนโยบายอีกครั้ง สะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น 10 ปีพุ่งสูงขึ้นทดสอบระดับ 0.5% รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อที่มีสัญญาณเร่งตัวขึ้น กระตุ้นความกังวลของตลาดต่อทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

โดยกลยุทธ์ลงทุนแนะนำธีม 1.ตรุษจีน+Spending ADVANC AEONTS, AU, AWC, BEC, BJC, CENTEL, ERW, MAKRO, TFG 2.เก็งงบฯกลุ่มแบงก์ไตรมาส 4/2565 อย่าง BBL, KTB และ 3.บาทแข็ง AAV, BGRIM, GPSC, SYNEX

หุ้นเด่นวันนี้แนะนำซื้อ KTB แนวรับ 17.20-17.50 บาท ราคาเป้าหมาย 18.40-19 บาท และ MAKRO แนวรับ 42-42.75 บาท ราคาเป้าหมาย 45-46.25 บาท