หุ้นไทยแกว่งตัว 1,675-1,695 จุด ลุ้นผลประชุม กนง.ขึ้นดอกเบี้ยวันนี้

เงินบาท-ตลาดหุ้นไทย

บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,675-1,695 จุด จับตา กนง.ขึ้นดอกเบี้ยตลาดปรับคาดการณ์จาก 0.25% เป็น 1.50% ส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวน หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ PLANB, CPALL

วันที่ 26 มกราคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,675-1,695 จุด แม้จะได้แรงหนุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 1 ก.พ. อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากตัวเลขส่งออกไทยที่หดตัวลงต่อเนื่อง, เม็ดเงิน (Fund flow) ต่างชาติที่ชะลอตัวลง รวมถึงการลดความเสี่ยงเพื่อรอผลประชุม กนง.ในวันนี้ (คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.50%)ส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy

สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้

ตัวเลขส่งออกไทยเดือน ธ.ค. หดตัวแรงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 : ก.พาณิชย์รายงานยอดส่งออกของไทยเดือน ธ.ค. หดตัว 1.46% YOY จากหดตัว 6% YOY ในเดือน พ.ย. และแย่กว่าที่ Consensus คาดว่าจะหดตัว 11.5% ส่วนยอดนำเข้าหดตัว 12% YOY จากขยายตัว 5.6% YOY ในเดือน พ.ย. และมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะหดตัว 8% YOY

ด้านคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 กระตุ้นท่องเที่ยว : โดยจะให้สิทธิเข้าพักโรงแรม 5.6 แสนสิทธิ รัฐสนับสนุนค่าห้องพัก 40% ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งจะได้ประโยชน์ 2 ทาง ทั้งการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการท่องเที่ยวในประเทศ Top pick ยังเน้นผู้ประกอบการโรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศ คือ ERW และ CENTEL

กลุ่มธนาคาร – วันนี้ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% : เราคงมุมมองเดิมโดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.5% โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลง หลังจากที่เงินเฟ้อเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 5.89% จาก 5.55% ในเดือน พ.ย.

ทั้งนี้ บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นเด่นวันนี้

CENTEL ERW MINT AWC SHR อานิสงส์มาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5

หุ้นแนะนำวันนี้

– PLANB (ปิด 8.7 ซื้อ/เป้า 9.10) ธุรกิจสื่อ OOH กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้น เม็ดเงินโฆษณาไหลเข้า Utilization rate ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องลุ้นกำไร 4Q22 เติบโตและกำไรสุทธิทำ All Time high ในปีหน้า

– CPALL (ปิด 70 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 74.5 บาท) คาดจะได้ประโยชน์จากกลุ่มกรุ๊ปทัวจีน ช่วยหนุนยอดขายของ 7-11 โดยเฉพาะกลุ่มสาขาที่อยู่ตามโซนพื้นที่ท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (ก่อนโควิดมีสัดส่วนลูกค้าจีนคิดเป็น 5% ของรายได้รวม)