SCBAM ควักเงิน 76 ล้าน เตรียมจ่ายปันผล 3 กองทุนหุ้นไทย 20 ก.พ.นี้

SCBAM

บลจ.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM ประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับกองทุนหุ้นผลงานดี จำนวน 3 กองทุน รวมมูลค่าเงินปันผลประมาณ 76 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผล 20 ก.พ. 2566

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า แม้ที่ผ่านมา ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัจจัยภายนอกประเทศอยู่บ้าง แต่ไทยกลับมีมุมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สวนทางกับภาพรวมเศรษฐกิจโลก และเริ่มเข้าสู่จังหวะของการฟื้นตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ที่นำโดยภาคการท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทำให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นไทยในไตรมาสสุดท้ายปี 2565 ออกมาในระดับที่น่าพอใจ และส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหุ้นที่บริษัทเลือกเข้าลงทุน บริษัทจึงได้ประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับกองทุนหุ้นผลงานดี สำหรับรอบผลการดำเนินงาน 6 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2565-วันที่ 31 มกราคม 2566 จำนวน 3 กองทุน รวมเป็นมูลค่าเงินปันผลประมาณ 76 ล้านบาท ประกอบด้วย

(1) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) หรือ SCBSE จ่ายปันผลครั้งที่ 24 (นับแต่วันจัดตั้งกองทุน; 28 มิถุนายน 2554) ในอัตราเงินปันผลที่ 0.2000 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดเพื่อการออม) หรือ SCBSE-SSF จ่ายปันผลครั้งที่ 4 (นับแต่วันจัดตั้งกองทุน; 1 กรกฎาคม 2563) ในอัตราเงินปันผลที่ 0.1000 บาทต่อหน่วย

(2) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (ชนิดจ่ายเงินปันผล) หรือ SCBENERGY จ่ายปันผลครั้งที่ 12 (นับแต่วันจัดตั้งกองทุน; 28 มิถุนายน 2554) ในอัตราเงินปันผลที่ 0.1000 บาทต่อหน่วย

(3) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (ชนิดจ่ายเงินปันผล) หรือ SCBBANKING จ่ายปันผลครั้งที่ 10 (นับแต่วันจัดตั้งกองทุน; 28 มิถุนายน 2554) ในอัตราเงินปันผลที่ 0.1000 บาทต่อหน่วย ซึ่งกองทุนทั้งหมดมีการแจ้งปิดพักสมุดทะเบียนเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2566 นี้ มองว่า ไทยยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง จากแรงหนุนการเปิดประเทศและการยกเลิกมาตรการ Zero COVID-19 ของจีนที่จะมาเป็นแรงส่งที่สำคัญให้กับภาคท่องเที่ยว รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ปัจจัยความกดดันจากภายนอกประเทศเริ่มท่าทีเชิงบวก ซึ่งหากทิศทางยังเป็นเช่นนั้น ก็จะส่งผลให้ภาพรวมด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นไทย สามารถเติบโตและกลับมาฟื้นตัวได้ดีอีกครั้ง

ทั้งนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (“SCBSE”) กองทุนมอร์นิ่งสตาร์ 4 ดาว (Thailand Fund Equity Large-Cap,ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2566) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดเพื่อการออม) (“SCBSE-SSF”) กองทุนหุ้นไทยที่คัดเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี มีแนวโน้มผลงานที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตที่น่าสนใจ จำนวนไม่เกิน 30 หุ้น และปรับให้สอดคล้องกับความเหมาะสมตามแนวโน้มของการลงทุนในแต่ละช่วงเวลา เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark)

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (“SCBENERGY”) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING) กองทุนหุ้นไทยที่เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy Sector) และหมวดธนาคารไทย (Banking Sector) ตามลำดับมีรูปแบบการลงทุนโดยจำลองการเคลื่อนไหวของดัชนี เพื่อหาโอกาสสร้างอัตราผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนของดัชนีของหมวดที่เป็นนโยบายลงทุนของกองทุนให้มากที่สุด