
บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) แนะ 4 กองทุนหุ้นจีนตัวท็อป พร้อมแคมเปญพิเศษยกเว้นค่าธรรมเนียมรับตรุษจีน เมื่อลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น SCBAM Fund Click ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.-28 ก.พ. 2566
วันที่ 19 มกราคม 2566 นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดมุมมองภาพการลงทุนโดยรวมในปี 2566 ว่า แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังดูมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ และยุโรป
- ประกาศใหม่ ผลประโยชน์ตอบแทนบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตน ม.33,39
- ทำความรู้จักบัตรวิสดอมกสิกรไทย ต้องรวยแค่ไหนถึงถือบัตรได้
- เปิดวิธีลงทะเบียน เลือกตั้งล่วงหน้า 2566 มีขั้นตอนอย่างไร ?
แต่สำหรับทิศทางเศรษฐกิจของฝั่งเอเชีย กลับเป็นโซนที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับการลงทุน จากรอบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศที่เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกมาตั้งแต่ปลายปี 2565

โดยเฉพาะประเทศจีน ที่ล่าสุดได้กลับมาเปิดประเทศเร็วกว่าคาด และจากการที่จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเร็ว ประกอบกับรัฐบาลจีนยังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมทั้งการเงินและการคลัง การกลับทิศนโยบายในภาคอสังหาฯ และการจัดระเบียบกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ SCBAM
จึงคัดเลือก 4 กองทุนหุ้นจีนแนะนำ คือ SCBCHEQA – SCBMLCA – SCBCHINA – SCBASHARES พร้อมจัดแคมเปญพิเศษ “ยกเว้นค่าธรรมเนียมการซื้อและสับเปลี่ยนเข้า” รับช่วงเทศกาลตรุษจีน เมื่อลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น SCBAM Fund Click ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566-28 กุมภาพันธ์ 2566
สำหรับ 4 กองทุนหุ้นจีนที่ SCBAM แนะนำ คือ
(1) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ออล ไชน่า อิควิตี้ (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBCHEQA เน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่สอดรับกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน เช่น เทคโนโลยี การเงิน และอุตสาหกรรม สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทจีนได้ทั้งในและนอกประเทศจีน ผ่านกองทุนหลัก Schroder ISF All China Equity (กองทุน 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ :
ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 65) โดยผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีคุณภาพสูงและมีศักยภาพการเติบโตระยะยาว ด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัวจากปัจจัยพื้นฐาน ประมาณ 30-60 ตัว เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุน
(2) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Active All China Equity (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBCHINA เน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจของจีนที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจที่น่าดึงดูดทั้งในและนอกประเทศจีน ผ่านกองทุนหลัก UBS (Lux) Equity SICAV – All China (USD) ที่มีกลยุทธ์สร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความเชื่อมั่นสูง และคัดเลือกหุ้นรายตัวจากปัจจัยพื้นฐาน โดยไม่ยึดติดกับดัชนีอ้างอิง ประมาณ 20-50 ตัว เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุน
(3) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Machine Learning China All Share (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBMLCAA คัดสรรหุ้นจีนทุกตลาด ผ่านการใช้ Machine Learning ที่พัฒนาขึ้นโดย SCBAM มีกลยุทธ์คัดเลือกหุ้นโดยใช้ข้อมูลจาก Factor ต่าง ๆ เช่น กลุ่มหุ้นที่เน้นการเติบโต (Growth), กลุ่มหุ้นเน้นคุณค่า (Value), กลุ่มหุ้นเน้นคุณภาพ (Quality)
และกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มมีผลตอบแทนดีในแต่ละช่วงเวลา (Momentum) เพื่อเฟ้นหาหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือตลาดในแต่ละสภาวะตลาด
(4) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ แอคทีฟ หรือ SCBASHARES เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศจีน ทั้ง Shenzhen และ Shanghai ได้อย่างยืดหยุ่น ผ่านกองทุนหลัก Schroder International Selection Fund China A
(กองทุน 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ : ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 65) และมีการคัดเลือกหุ้นคุณภาพที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว ด้วยวิธีการคัดเลือกหุ้นรายตัวจากปัจจัยพื้นฐาน ประมาณ 40-70 บริษัท เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุน
นางสาวศุภรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากสถิติในอดีตที่ผ่านมา พบว่าตลาดหุ้นจีนมักจะฟื้นตัวได้ดีหลังผ่านจุดต่ำสุด อีกทั้งในช่วงก่อนและหลังปีใหม่ของจีนจะมีผลตอบตอบแทนที่ค่อนข้างดี และแนวโน้มคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นจีน เริ่มเห็นการหยุดปรับตัวลงบ้างแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในระยะถัดไป

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาระดับมูลค่าพื้นฐานของตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่แพง จากการปรับตัวลดลงในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา การทยอยสะสมลงทุนในตลาดหุ้นจีนในช่วงเวลานี้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ”