MAKRO เปิดแผนขยายสาขา ปี 2566 รวดเดียว 173 แห่ง

แม็คโคร เปิดแผนขยายสาขา ปี 2566 รวดเดียว 173 แห่ง ตั้งเป้าโตขายภายในสาขา-ออนไลน์ ลุยขยายพื้นที่เช่าสาขาเดิม 19 แห่ง เพิ่มสินค้า-ร้านค้าใหม่

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร และประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ผู้นำอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับ 1 ในเอเชีย เปิดเผยว่า

เศรษฐกิจเอเชียปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าเศรษฐกิจโลก จากการเปิดประเทศของจีนภายหลังยกเลิกนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทย หนุนโดยภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตามการกลับมาของนักท่องเที่ยวหลัก โดยเฉพาะจากจีน

ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการจ้างงานและการกระจายรายได้สู่ภาคบริการและการบริโภคในประเทศ โดยปัจจัยดังกล่าวหนุนการเติบโตของบริษัท

เสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์
เสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์

ขยายสาขา ปี 2566 รวดเดียว 173 แห่ง

โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโตทั้งในรูปแบบการขายภายในสาขาและออนไลน์ โดยจะขยายสาขาทั้งหมด 173 สาขา ในหลากหลายรูปแบบดังนี้

  • กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (ธุรกิจแม็คโครประเทศไทย ธุรกิจแม็คโครต่างประเทศ และธุรกิจฟูดเซอร์วิส) มีแผนขยายสาขาในประเทศ 12 สาขา และต่างประเทศอีก 6 สาขา รวมเป็น 18 สาขา
  • กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ภายใต้ชื่อ Lotus’s และธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย (Lotus’s Thailand และ Lotus’s Malaysia) มีแผนขยายสาขาในประเทศ และต่างประเทศ ประกอบด้วย ศูนย์จำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ 5 สาขา ขนาดกลางและขนาดเล็กมากกว่า 150 สาขา รวมเป็น 155 สาขา

ขยายพื้นที่เช่าสาขาเดิม 19 สาขา

นอกเหนือจากนั้นบริษัทมีแผนขยายพื้นที่เช่าในสาขาเดิมอีก 19 สาขา จากปัจจุบัน MAKRO ประเทศไทยมีสาขา 152 สาขา พื้นที่รวม 811,622 ตร.ม. และ MAKRO ต่างประเทศ 10 สาขา พื้นที่รวม 43,269 ตร.ม.

ขณะที่ Lotus’s ประเทศไทยมีสาขา 2,578 สาขา พื้นที่ขายรวม 1,531,317 ตร.ม. พื้นที่ให้เช่ารวม 745,249 ตร.ม. และ Lotus’s มาเลเซีย 65 สาขา พื้นที่ขายรวม 290,986 ตร.ม. พื้นที่ให้เช่ารวม 316,434 ตร.ม.

โดยรูปแบบการตกแต่งและสินค้าต่าง ๆ จะมีความแตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนั้นก็จะมีการปรับเปลี่ยนธุรกิจต่าง ๆ ในร้านค้าด้วย

เพิ่มสินค้า-ร้านค้าใหม่

โดยเพิ่มสินค้าบริโภคที่สรรหามาจากทั้งในและต่างประเทศให้มีความหลากหลาย สร้างความแตกต่างด้วยสินค้าอาหารแช่แข็ง เพิ่มความสดใส ความทันสมัย และความหลากหลาย ในกลุ่มสินค้าอุปโภค ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า

ในส่วนของร้านค้าเช่า ก็จะมีการเพิ่มร้านค้าใหม่ ๆ ที่เป็นที่นิยมมากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้เวลา และจับจ่ายในร้านค้าให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ค่าเช่า และรายได้จากการให้บริการศูนย์การค้าให้มีแนวโน้วดีขึ้น

อย่างไรก็ดีบริษัทยังมุ่งมั่นขยายธุรกิจและหาโอกาสใหม่ ๆ รวมถึงลงทุนพัฒนาระบบออนไลน์และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงรองรับการเติบโตของการขายผ่านช่องทางการขายออนไลน์และการส่งสินค้านอกร้าน แบบไร้รอยต่อ ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง