AWC ธุรกิจลูกสาวเจ้าสัวเจริญ ปี’65 กำไรเฉียด 4 พันล้าน อานิสงส์ประชุมเอเปค

AWC หรือ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป โชว์รายได้ปี 2565 กำไรสุทธิ 3,981 ล้าน โต 100% ระบุธุรกิจของบริษัทโตทุกกลุ่ม โดยเฉพาะโรงแรม-การบริการ โตแบบก้าวกระโดด หลังเปิดประเทศและจัดประชุมเอเปค รวมถึงกลุ่มรีสอร์ตระดับลักเซอรี่ และโรงแรมในกลุ่มประชุมสัมมนา หลังประชาชนกลับเข้ามาใช้บริการในศูนย์ใกล้เคียงปกติแล้ว

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิตามงบการเงินจำนวน 1,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.9 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากธุรกิจโรงแรมและบริการ ซึ่งเป็นการเติบโตในทุกกลุ่มของโรงแรม

และในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอปค ครั้งที่ 29 ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัตราการเข้าพักในโรงแรมของไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ร้อยละ 63.5 โดยเป็นการเติบโตในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มประชุมสัมมนา โรงแรมในกรุงเทพฯ โรงแรมอื่น ๆ นอกกรุงเทพฯ รายได้เฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Rate : ADR) เท่ากับ 5,697 บาทต่อคืน เติบโตร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า

ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า มีการเติบโตเช่นเดียวกัน ประชาชนกลับเข้ามาใช้บริการในศูนย์ใกล้เคียงปกติ และบริษัทให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงานยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดรับให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของบริษัท ยังคงมีผลการดำเนินงานที่มั่นคง โดยในไตรมาส 4/2565 บริษัทมีกำไรจากการรวมมูลค่ายุติธรรมของมูลค่าอสังหาฯ เพื่อการลงทุนจำนวน 1,305 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกำไรสุทธิตามงบการเงินกับไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาส 4/2565 กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.7 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

สำหรับผลประกอบการปี 2565 มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 3,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและการบริการที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่มีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบในช่วงครึ่งหลังปี 2565

อีกทั้งบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกซึ่งสามารถดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพจากทั่วโลกให้เข้ามาพักในกลุ่มบริษัทได้อย่างรวดเร็ว โดยอัตราการเข้าพักในปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 49 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.6 ในปี 2564 โดยอัตราการเข้าพักโรงแรมเติบโตในทุก ๆ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มรีสอร์ตระดับลักเซอรี่ และโรงแรมในกลุ่มประชุมสัมมนา ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้ามีการเติบโตเช่นเดียวกัน