หุ้นไทย มี.ค.เผชิญ 3 กับดัก ช็อก ! กำไร 538 บริษัท ดิ่งแรง 13 เซ็กเตอร์

หุ้นไทย

หุ้นไทย มี.ค. 2566 เผชิญ 3 กับดัก ช็อก ! กำไร 538 บริษัท ลดลงแรง 13 เซ็กเตอร์ 4 กลุ่มขาดทุน “ปิโตรเคมี-เหล็ก-ไอซีที-รับเหมาก่อสร้าง”

 

วันที่ 2 มีนาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด รายงานว่า ในเดือน มี.ค. 2566 ปัจจัยภายนอกที่นักลงทุนยังให้น้ำหนักคือ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในเดือน ก.พ. 2566 ที่จะประกาศในวันที่ 14 มี.ค. 2566 รวมถึงแนวทางการรับมือเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด

และยังมีความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรในการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 29 มี.ค. 2566 ปัจจุบันตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรอบนี้อีก 0.25% มาอยู่ที่ 5%

หุ้นไทย มี.ค. เผชิญ 3 กับดัก

ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือน มี.ค. 2566 ยังคงเผชิญกับ 3 กับดักคือ 1.เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าที่คาด โดย GDP Growth งวดไตรมาส 4/2565 ของไทยขยายตัวเพียง +1.4% YOY ซึ่งเติบโตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ฟิลิปปินส์ +7.6% YOY, อินโดนีเซีย +5.3% YOY

และจีดีพีไทยยังหดตัว -1.5% QOQ ส่งผลให้มูลค่าจีดีพีไทยพลิกกลับมาต่ำกว่าช่วงก่อนเกิด COVID-19 ซึ่งหากติดลบอีก 1 ไตรมาสจะเข้าสู่ภาวะ Technical Recession

2.ตลาดหุ้นไทย รายงานงบไตรมาส 4/2565 ออกมา 538 บริษัท คิดเป็นสัดส่วนมาร์เก็ตแคป 92% ลดลง 35% QOQ และ 45% YOY และเป็นการลดลงแรงจาก 13 เซ็กเตอร์ โดยเฉพาะเซ็กเตอร์ที่ขาดทุนคือ ปิโตรเคมี, เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ, ไอซีที, รับเหมาก่อสร้าง

อีกทั้งกำไรยังต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดถึง -40% นำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลงต่อเนื่องในช่วงเดือนนี้

ปรับลดประมาณการกำไร 1.5 แสนล้าน

3.ล่าสุดฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลงจาก 1.27 ล้านล้านบาท เป็น 1.12 ล้านล้านบาท หรือลดลงกว่า 1.5 แสนล้านบาท และปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปีนี้ลงจาก 99.2 บาท/หุ้น เหลือ 91.8 บาท/หุ้น เมื่อคูณกับ P/E ที่ 17.54 เท่า (ที่คำนวณจาก MEYG 4.2% ภายใต้ดอกเบี้ยนโยบาย 1.5%) ได้ดัชนีเป้าหมายอยู่ที่ 1,610 จุด

ปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นเชื้อไฟทำให้ต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิหุ้นไทยหนักในเดือน ก.พ. 2566 สูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญหรือราว 4.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิสูงสุดในภูมิภาค และยังเป็นเดือนที่ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2563 หรือช่วงเกิด COVID-19 แรก ๆ

อย่างไรก็ตาม ในเดือน มี.ค. 2566 เชื่อว่าฟันด์โฟลว์มีโอกาสชะลอการไหลออก หากมีประเด็นบวกเข้ามาเสริม เช่น ความมีเสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือเลื่อนกำหนดเวลาขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 29 มี.ค. 2566 ออกไป รวมถึงดาวน์ไซด์ของ SET Index ตามประมาณการใหม่มีจำกัด

แนะสะสมหุ้นฟื้นตัวดีไตรมาส 1 ปีนี้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค. 2566 ภายใต้ Valuation ตลาดหุ้นไทย ที่เริ่มตึงมากขึ้น รวมถึงฟันด์โฟลว์ชะลอการไหลเข้า การเลือกหุ้นลงทุนจำเป็นจะต้องพิถีพิถันมากขึ้น

แนะนำสะสมหุ้นกำไรงวดไตรมาส 4/2565 ผ่านจุดเลวร้าย (Bottom Out) และฟื้นตัวต่อในช่วงไตรมาส 1/2566 อย่าง IVL, BGRIM, BLA, JMT รวมถึงหุ้นอิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ที่มีกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง CRC, CBG, AP