หุ้นไทยทดสอบ 1,600 จุด แนะซื้อแบบเก็งกำไร จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ

ตลาดหุ้น

บล.กรุงศรีฯ มองภาพหุ้นไทยวันนี้ขึ้นทดสอบ 1,600-1,610 จุด ได้เซนติเมนต์บวกจากตลาดหุ้นรอบบ้านดีดตัวขึ้น ฟันด์โฟลว์ต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ แต่วอลุ่มซื้อขายน้อย แนะเข้าซื้อแบบเก็งกำไร รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน มี.ค. พรุ่งนี้

วันที่ 11 เมษายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีฯ รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า วานนี้ดัชนี SET Index บวกแรง 16 จุด ปิดที่ระดับ 1,593 จุด นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิหนุนหุ้น Big Cap ปรับตัวขึ้นนำตลาด อาทิ DELTA, GULF, BH และ KBANK

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ประเมิน SET ขึ้นทดสอบ 1,600-1,610 จุด ภาวะตลาดได้เซนติเมนต์บวกจากตลาดหุ้นรอบบ้านดีดตัวขึ้น รวมถึงฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่พลิกเป็นซื้อสุทธิราว 2.5 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ด้วยวอลุ่มซื้อขายที่ค่อนข้างน้อย ประกอบกับการติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ Core Inflation Rate เดือน มี.ค. ในวันพรุ่งนี้ 12 เม.ย. (Consensus คาด +5.6% YOY) จึงแนะนำ

แนะนำหุ้นเด่นวันนี้ ADVANC (ปิด 212 บาท ซื้อ/เป้า 250 บาท) แนวโน้มผลกำไรกลับสู่ทิศทางขาขึ้น โดยจะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เบื้องต้นคาดมีกำไรปกติประมาณ 6.79 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% QOQ และ 7% YOY จากฐานของผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันในธุรกิจที่ลดลง

CK (ปิด 21 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 28 บาท) เก็งกำไรธีมการเลือกตั้ง ด้านผลประกอบการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น คาดปีนี้จะมี Backlog เพิ่มเป็น 2.5 แสนล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี (จากการเซ็นสัญญาโครงการหลวงพระบางและรถไฟฟ้าสายสีม่วง)

ประเด็นสำคัญวันนี้ ประกอบด้วย 1.ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลง โดยสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสถานการณ์การลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลงสู่เกณฑ์ทรงตัว โดยมีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 95.65 ลดลง 21% จากการสำรวจครั้งก่อน เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับข่าววิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรป (คาดผลสำรวจครั้งถัดไปจะดีขึ้นหลังวิกฤตดังกล่าวเริ่มผ่อนคลาย)

2.FED Minutes คาดกรรมการส่วนใหญ่ยังหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม คาดว่าปัจจัยนี้จะส่งผลลบกับตลาดค่อนข้างจำกัด เนื่องจากตลาดรับรู้ไปแล้ว และเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้ (3 พ.ค. 66) จะเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5-5.25% และจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง

3.เงินเฟ้อสหรัฐจะเป็นตัวชี้วัดว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะประกาศอัตราเงินเฟ้อ (CPI) เดือน มี.ค. ในวัน พุธที่ 12 เม.ย. (วันเดียวกับ FED Minutes) ตัวเลขดังกล่าวจะตัดสินว่าเฟดควรจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหรือจะเริ่มคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม

เบื้องต้น Consensus คาด Headline CPI จะลดลงสู่ระดับ 5.2% จาก 6% ในเดือน ก.พ. แต่คาด Core CPI จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.6% จาก 5.5% ในเดือน ก.พ.

หุ้น