บริทาเนีย ขายหุ้นกู้ลอตใหม่ 2 ชุด ดอกเบี้ย 4.00-4.70% ต่อปี

บริทาเนีย

“บริทาเนีย” เปิดตัวหุ้นกู้ลอตใหม่ 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี ชูอัตราดอกเบี้ย 4.00-4.70% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดเสนอขาย 18-19 และ 22 พ.ค.นี้ ผ่าน 4 สถาบันการเงิน อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้และบริษัท “BBB/Stable” จากทริสเรทติ้ง

วันที่ 19 เมษายน 2566 นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า ทางบริทาเนียเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering)

โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.70% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่ทุก ๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์
สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์

โดยคาดว่าหุ้นกู้ของบริษัทจะเสนอขายระหว่างวันที่ 18-19 และวันที่ 22 พ.ค. 2566 นี้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บริษัท และชำระเงินกู้ยืมคืนให้กับบริษัทใหญ่

ขณะเดียวกัน บริทาเนียและหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2565 ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งเป็นระดับลงทุนได้ หรือ Investment Grade สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของบริทาเนียที่เป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Advertisment

นายสุรินทร์กล่าวอีกว่า ในปี 2566 บริษัทดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “B To The Top” มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรระดับท็อปใน 3 มิติ ได้แก่ 1.B The Growth ก้าวสู่ระดับท็อปของตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (All Time High) จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท

2.B The Craft มุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์บ้านจัดสรรระดับท็อปในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand) ด้วยวัฒนธรรมองค์กร Craft Mindset อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าให้คุณค่า (Customer Value) ในการสร้างสรรค์ ดูแล และบริการที่ยกระดับให้แก่ผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมการอยู่อาศัย และ 3.B The Goodness มุ่งเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในโครงการและชุมชนรอบด้าน ตลอดจนเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

“เราเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของ BRI ทั้ง 2 ชุดจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มองหาโอกาสลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้ที่มีความมั่นคง ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade พร้อมทั้งแผนการสร้างการเติบโตแบบ All Time High เป้าหมายยอดขายสูงสุด 13,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจตลอดการถือครอง” นายสุรินทร์กล่าว

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย)

Advertisment

สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซ็ปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักเซอรี่ ระดับราคา 20-50 ล้านบาท

2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2565 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 30 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 36,449 ล้านบาท