กรมศุลฯ เข้ายื่นเรื่องตำรวจสอบสวนกลางพรุ่งนี้ให้ดำเนินคดีผู้นำเข้าหมูเถื่อน

กรมศุลฯ หมูเถื่อน

กรมศุลกากรเตรียมเข้ายื่นหนังสือตำรวจสอบสวนกลาง 12 พ.ค.นี้ ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานนำเข้าซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามที่รับปากไว้กับ “ม็อบผู้เลี้ยงหมู”

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 รายงานจากกรมศุลกากร แจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) เวลา 12.15 น. นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร จะเข้ายื่นหนังสือขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในฐานะนิติบุคคลและในฐานะส่วนตัว ในความผิดฐานนำเข้าซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อาคารพิทักษ์สันติ ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูราว 2,000 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล และกรมศุลกากร เพื่อแก้ปัญหาหมูเถื่อน โดยมีการประชุมร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรและสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้ข้อสรุปออกมา 9 ประเด็นคือ

1.กรณีหมูเถื่อน 161 ตู้ ทางศุลกากรจะเป็นผู้ประสานงานและดำเนินการทำลายโดยมีการทำงานร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ

2.เรื่องความโปร่งใส ทางอธิบดีกรมศุลกากรแจ้งว่า ขอให้สบายใจได้ เรื่องนี้จะไม่จบที่กรมศุลฯ จะต้องจบที่สำนักงานสอบสวนกลาง

3.การดำเนินการนำเข้าสินค้าแช่เย็นในอนาคตจะต้องมีกระบวนการ ดำเนินการตาม (SOP) เอสโอพี standard operation procedures ใหม่ และมีการรายงานข้อมูลเชิงสถิติในเว็บไซต์ของกรมศุลกากร เพื่อตรวจสอบได้แบบอัพเดต

4.ตั้งตัวแทนประสานงานร่วมกันโดยกรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ตัวแทนกรมศุลกากร ตัวแทนกรมปศุสัตว์ ตัวแทนกรมการค้าภายใน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานงานแบบฉับพลันและต่อเนื่อง

5.สินค้าอาหารแช่แข็ง (Frozen food) ต่อจากนี้จะต้องผ่านระบบ Red line เท่านั้น ไม่ผ่านระบบ Green Line เพื่อลดโอกาสที่จะหลุดลอด หรือทุจริต

6.การประสานงานต่อจากนี้ เรื่องนี้ยกขึ้นเป็นในระดับกรมต่อกรมโดยตรง โดยคณะทำงานชุดนี้ไม่ใช่ระดับด่านหรือระดับจังหวัดเหมือนที่ผ่านมา

8.ตู้ทุกตู้ที่อายัดไว้สามารถดำเนินการตรวจสอบได้โดยคณะกรรมการสมาคมร่วมกับกรมศุลกากรส่วนกลาง

9.รายชื่อผู้นำเข้ายังไม่สามารถเปิดเผยได้โดยในระดับกรม เป็นไปตามทางกฏหมาย แต่กรมจะส่งเรื่องไปที่กรมสอบสวนกลางเพื่อสามารถเปิดเผยได้หรือไม่ อยู่ในอำนาจของตำรวจ