หุ้น CPALL-CPF-TRUE ร่วงต่อ MAKRO บวก รับผลเข้าดัชนี MSCI

หุ้น CPALL-CPF-TRUE

ราคาหุ้น “CPALL-CPF-TRUE” ร่วงต่อ สวนทาง MAKRO ยืนบวก บล.กสิกรไทย ชี้นักลงทุนกังวลความไม่แน่นอนการจัดตั้งรัฐบาล สวน MAKRO มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวรับผลเข้าคำนวณดัชนี MSCI

วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของหุ้นเครือ ซี.พี. 4 บริษัทใหญ่ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดพบว่า

– บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ราคาหุ้นลดลง 2.70% จากราคาวันก่อนหน้า มาอยู่ที่ราคา 63 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 3,239 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับสองของตลาด

– บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ราคาหุ้นลดลง 2.02% จากราคาวันก่อนหน้า มาอยู่ที่ราคา 19.40 บาท มีมูลค่าซื้อขายรวม 982 ล้านบาท

– บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ราคาหุ้นลดลง 3.47% จากราคาวันก่อนหน้า มาอยู่ที่ 6.96 บาท มีมูลค่าซื้อขายรวม 841 ล้านบาท

– บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 0.64% จากราคาวันก่อนหน้า มาอยู่ที่ 39.50 บาท มีมูลค่าซื้อขายรวม 873 ล้านบาท

นางสาวธรีทิพย์ วงษ์แสงไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาหุ้นเครือซีพีที่ปรับตัวลงเกิดจากความไม่แน่นอนของประเด็นทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะปัจจัยพื้นฐานเองไม่มีอะไรเปลี่ยน อย่างหุ้น CPALL แนวโน้มกำไรดูดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ต่อเนื่อง ความสามารถในการทำกำไรก็มีทิศทางที่ดีขึ้น

สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น จริง ๆ คงเป็นโอกาสเข้าสะสม เพียงแต่ระยะเวลาคงขึ้นอยู่กับความชัดเจนทางการเมือง เพราะภาพทั้งปีในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน แม้อาจจะโดนความเสี่ยงของรัฐบาลใหม่เข้ามาเจอผลกระทบนโยบายค่าแรง แต่ก็โดนผลกระทบทั้งอุตสาหกรรมฯ และกสิกรฯเองก็มองว่าการขึ้นค่าแรงคงไม่ขึ้นแบบ aggressive มาก แต่คงเป็นทิศทางขาขึ้นเพื่อสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ


ทั้งนี้สำหรับ MARKO ที่ปรับตัวบวกสวนทางกลุ่ม เพราะมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว จากเหตุผลคือดัชนี MSCI Global Standard Index ได้ประกาศว่าหุ้น MAKRO จะถูกเข้าคำนวณดัชนีอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนักราคาปิดวันที่ 31 พ.ค. 2566 ที่จะถึงนี้ โดยจะเห็นโฟลว์ของบรรดากองทุนทั้งในและต่างประเทศไหลเข้าซื้อหุ้น MAKRO มากขึ้น