คาดหุ้นไทยปรับขึ้น 1,540-1,545 จุด ตอบรับสหรัฐขยายเพดานหนี้

ตลาดหุ้น

บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,540-1,545 จุด ตอบรับสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้-ราคาน้ำมันดิบที่รีบาวนด์ หุ้นเด่นวันนี้ BCH,SCB

วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวขึ้น แนวต้าน 1,540-1,545 จุด ตอบรับสหรัฐบรรลุข้อตกลงในหลักการเพิ่มเพดานหนี้จาก 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นเวลา 2 ปี ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่รีบาวนด์ขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 5.25-5.50% ในการประชุม 13-14 มิ.ย. ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้

ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐมีข่าวดี ไบเดน กับ แมคคาร์ธี บรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้แล้ว : เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีรายงานว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนฯ ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อเพิ่มเพดานหนี้แล้ว ลำดับถัดไปคาดว่าจะมีการส่งเรื่องให้สภาคองเกรสลงมติ คาดว่าจะทันก่อนกำหนดในวันที่ 1 มิ.ย. 23

PCE ดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด : สหรัฐรายงานดัชนี Headline PCE Price Index เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% จาก 4.2% ในเดือน มี.ค. เช่นเดียวกับเทียบเดือนก่อนหน้า (MOM) เพิ่มขึ้น 0.4% มากกว่าเดือน มี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วน Core PCE เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.7% จาก 4.6% ในเดือน มี.ค. และเมื่อเทียบเทียบเดือนก่อนหน้า (MOM) เพิ่มขึ้น 0.4% มากกว่าเดือน มี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.3%

การส่งออกไทยเดือน เม.ย. ภาพรวมยังหดตัวแต่ให้โฟกัสเป็นรายกลุ่มสินค้า : เบื้องต้น Consensus คาดหดตัว 1.9-2% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 อย่างไรก็ตาม อยากให้โฟกัสเป็นรายสินค้าเพื่อหาข้อมูลการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจดังกล่าว อาทิ อาหารสัตว์ รวมถึงกลุ่มที่มีโมเมนตัมโตต่อเนื่อง อาทิ เครื่องดื่ม, เลนส์ และข้าวโพด เป็นต้น

บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นเด่นวันนี้

– BCH (ปิด 17.70 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 20 บาท) เก็งกำไรแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศพุ่งขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูฝนและเป็นช่วงเปิดเทอม เป็นบวกกับกลุ่มโรงพยาบาลที่เน้นผู้ป่วยในประเทศและมีจำนวนเตียงโควิดในสัดส่วนที่สูง อาทิ BCH


– SCB (ปิด 102 ซื้อ/เป้า 160 บาท) แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ยังโตต่อเนื่องจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่เพิ่มขึ้นตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ ส่วนการตั้งสำรองหนี้คาดว่าจะปรับลงสู่ระดับปกติที่ระดับ 7-8 พันล้านบาทจาก 9,900 บาท ในไตรมาส 1/66