กรุงศรีคาดเงินบาทอ่อนค่า กรอบซื้อขาย 34.50-35.10 บาทต่อดอลลาร์

ธ.กรุงศรีอยุธยา คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.50-35.10 บาทต่อดอลลาร์ หลังเฟดส่งสัญญาณหยุดพักการขึ้นดอกเบี้ยในรอบการประชุม 12-13 มิ.ย.นี้ หนุนดอลลาร์แข็งค่า เงินบาทอยู่ในโซนอ่อนค่า มอง ธปท.ตรึงดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.00%

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-35.10 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.53 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.49-34.89 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 3 เดือน

ขณะที่ค่าเงินหยวนร่วงลงสู่จุดต่ำสุดรอบ 6 เดือน เงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความเห็นว่า ควรหยุดพักการขึ้นดอกเบี้ยสำหรับรอบประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน แม้อัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างเชื่องช้าก็ตาม

โดยการคงดอกเบี้ยจะเอื้อให้เฟดประเมินผลกระทบจากการคุมเข้มนโยบายอย่างแข็งกร้าวในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เฟดพยายามสื่อสารว่าการหยุดพักไม่ได้หมายความว่าวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยนั้นได้จบลงแล้ว นอกจากนี้ สหรัฐได้ผ่านกฎหมายระงับการใช้เพดานหนี้สหรัฐที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ได้สำเร็จ โดยกฎหมายนี้จะระงับการใช้เพดานหนี้จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า แม้เฟดส่งสัญญาณพิจารณาหยุดพักการขึ้นดอกเบี้ย แต่ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งทำให้นักลงทุนมองว่าเฟดอาจจะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนกรกฎาคม

ทั้งนี้ การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากถึง 339,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม แต่อัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้นเป็น 3.7%

ขณะที่ตลาดสัญญาล่วงหน้าสะท้อนว่ามีโอกาสราว 77% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่ามีความน่าจะเป็น 65% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bp ก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคม ในภาวะเช่นนี้ กรุงศรีมองว่าเงินดอลลาร์จะย่ำฐานในโซนแข็งค่าก่อนเข้าสู่ประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

สำหรับปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นดอกเบี้ยด้วยมติเอกฉันท์ โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และยังต้องติดตามทิศทางเงินเฟ้อ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่คาดไว้

อนึ่ง แม้ กนง.เน้นย้ำว่าต้องการปรับนโยบายการเงินต่อไป แต่กรุงศรีมองอย่างระมัดระวังว่าดอกเบี้ยนโยบายอาจถูกตรึงไว้ที่ 2.00% ขณะที่ดอกเบี้ยที่แท้จริงพลิกเป็นบวกรวมถึงสุญญากาศด้านการดำเนินนโยบายช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอาจทำให้เศรษฐกิจขาดแรงส่งได้บางส่วน