SCB ปล่อยกู้ ‘ไทยเบฟ’ 4.5 พันล้าน ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น OISHI

SCB ปล่อยกู้ 'ไทยเบฟ' 4.5 พันล้าน ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น OISHI

‘ไทยเบฟเวอเรจ’ ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น OISHI สัดส่วน 20.34% รวม 45 วัน ตั้งแต่ 15 มิ.ย.-21 ส.ค. 66 ที่ราคา 59 บาท/หุ้น เพื่อเพิกถอนออกจากตลาด ด้าน “ธนาคารไทยพาณิชย์” ปล่อยสินเชื่อให้เต็มวงเงิน 4.5 พันล้าน เพื่อนำเงินสดมาชำระกับผู้แสดงเจตนาขายทั้งหมด 

วันที่ 14 มิถุนายน 2566 นางชลิตา อิศรางกรู ณ อยธุยา เลขานุการ บริษัท บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI) รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 บริษัทได้รับสำเนาคำเสนอซื้อหุ้น OISHI จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อ

ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดย ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ไทยเบฟเวอเรจถือหุ้น OISHI จำนวนทั้งสิ้น 298,720,398 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 79.66% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท

และเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการไทยเบฟเวอเรจ มีมติอนุมัติให้ทำคำเสนอซื้อหุ้น OISHI จำนวน 76,279,602 หุ้น คิดเป็น 20.34% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของกิจการ ในราคาหุ้นละ 59 บาท เพื่อเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ หรือตัวแทนในการรับซื้อหุ้น

ทั้งนี้ มีกำหนดระยะเวลาทำคำเสนอซื้อรวมทั้งสิ้น 45 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2566 ถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ในทุกวันทำการของตัวแทนในการรับซื้อหุ้นตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ที่ราคาเสนอซื้อ 59 บาทต่อหุ้น โดยราคาสุทธิที่ผู้ขายจะได้คือ 58.8422 บาทต่อหุ้น

โดยเงินสูงสุดที่ใช้ทำคำเสนอซื้อหุ้นตามคำเสนอซื้อครั้งนี้ประมาณ 4,500,496,518 บาท ซึ่งไทยเบฟเวอเรจ จะชำระค่าหุ้นเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายที่ตอบรับการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้ โดยมีแหล่งเงินทุนสำหรับการทำคำเสนอซื้อมาจากวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งได้รับจดหมายรับรองการให้การสนับสนุนด้านการเงินในการทำคำเสนอซื้อจากสถาบันการเงินแล้ว

คือวงเงินสินเชื่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ภายใต้วงเงินสินเชื่อที่ผู้ทำคำเสนอซื้อมีอยู่กับธนาคารในปัจจุบัน โดยจำนวนเงินสามารถเบิกถอนได้จากวงเงินสินเชื่อเพียงพอในการทำคำเสนอซื้อ ภายใต้วงเงินสูงสุดของการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้

กำหนดวันที่ชำระราคาหุ้นที่เสนอซื้อคือวันที่ 23 สิงหาคม 2566 โดยผู้แสดงเจตนาขายสามารถเลือกรับการชำระเงินค่าหุ้นได้ 2 กรณี โดยแจ้งความประสงค์ไว้ในแบบตอบรับคำเสนอซื้อหุ้น โดยที่แบบตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการแสดงเจตนาขายที่ผู้แสดงเจตนาขายนำมายื่นมีความถูกต้อง ครบถ้วน โดยที่การโอนหุ้นให้แก่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้นและมีผลสมบูรณ์

1.เลือกรับชำระเงินค่าหุ้นก่อนสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ หรือก่อนสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อหุ้นที่ขยายเพิ่มเติม (แล้วแต่กรณี)

ในกรณีหลักทรัพย์ที่นำมาเสนอขายอยู่ในรูปแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ผู้แสดงเจตนาขายจะได้รับชำระเงินค่าหุ้นในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันที่ผู้แสดงเจตนาขายได้ยื่นแบบตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการแสดงเจตนาขายที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน

ในกรณีหลักทรัพย์ที่นำมาเสนอขายอยู่ในรูปแบบ 1.ใบหุ้น (Script) 2.การฝากหลักทรัพย์ไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ในบัญชีของผู้ออกหลักทรัพย์ (Issuer Account) สมาชิกเลขที่ 600 หรือ 3.NVDR ผู้แสดงเจตนาขายจะได้รับชำระเงินค่าหุ้นในวันทำการที่ 3 ถัดจากวันที่ผู้แสดงเจตนาขายได้ยื่นแบบตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการแสดงเจตนาขายที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน

ทั้งนี้ การใช้สิทธิเลือกวันชำระเงินค่าหุ้นข้างต้นจะถือว่าผู้แสดงเจตนาขายสละสิทธิยกเลิกการแสดงเจตนาขาย โดยในกรณีนี้ ผู้แสดงเจตนาขายไม่สามารถใช้สิทธิยกเลิกการแสดงเจตนาขายได้

2.เลือกรับชำระเงินค่าหุ้นภายหลังจากวันสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ ผู้แสดงเจตนาขายจะได้รับชำระเงินค่าหุ้นภายในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 (ซึ่งเป็นวันทำการที่ 2 ถัดจากวันสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ)

ทั้งนี้ ในกรณีตาม 2.หากมีการขยายระยะเวลารับซื้อหลักทรัพย์ ผู้แสดงเจตนาขายจะได้รับชำระเงินค่าหุ้นภายในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อที่ขยายแล้ว และตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์จะแจ้งระยะเวลาในการใช้สิทธิยกเลิกการแสดงเจตนาขายที่มีการขยายออกไป โดยการยื่นแบบยกเลิกการแสดงเจตนาขายหลักทรัพย์