DSI ออกหมายเรียกคดี STARK อีก 10 ราย “ชนินทร์” หนีไปต่างประเทศแล้ว

STARK คดี STARK กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI

DSI แถลงความคืบหน้าคดี STARK เผยปูพรมตรวจค้น 15 จุด ยึดอายัดหลักฐาน-ทรัพย์สินได้รถหรู 4 คัน ของ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” ที่ถูกออกหมายจับแล้ว ยอมรับเจ้าตัวเผ่นออกนอกประเทศตั้งแต่ 24 มิ.ย.แล้ว ยันเดินหน้าขยายผลออกหมายเรียก 10 ราย รวมถึง “วนรัชต์” ที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษเพิ่มแล้ว มั่นใจดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องได้อีกเพียบ

วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นางสาวทิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงความคืบหน้าคดีหุ้น STARK ซึ่งเป็นคดีพิเศษที่ 57/2566 ว่า คดีดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อตลาดทุนและเศรษฐกิจการคลังของประเทศ ดีเอสไอจึงได้เร่งรัดสืบสวนสอบสวน โดยคดีนี้ได้ออกเลขคดีเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 จากนั้นได้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนจนสามารถออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 และต่อมาในวันที่ 5 กรกฎาคมได้ออกหมายจับ

“วานนี้ วันที่ 6 กรกฎาคม เราได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้น ทั้งหมด 15 จุดพร้อมกัน โดยมี 5 จุดเป็นการค้นบริษัทที่เกี่ยวข้อง คือ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีมเอ โฮลดิ้ง จำกัด, บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL), บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI) นอกจากนั้น ยังมีการตรวจค้นบ้านพักอาศัยของผู้ที่เกี่ยวข้องอีกทั้งหมด 10 จุด”

ในการตรวจค้น ได้พบพยายานหลักฐานการทำธุรกรรมของ STARK และบริษัทในเครือ เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ และเอกสารวัตถุพยานอื่น ๆ ซึ่งพนักงานสอบสวนเชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นอน

“ที่ผ่านมา เราได้เรียกสอบพยาน ซึ่งเป็นพนักงานสอบบัญชีของบริษัท นอกจากนั้นก็ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา คือ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ๆ ขณะนี้ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งมีการกล่าวหามาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้ามาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม”

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ได้อายัดทรัพย์สินไว้ได้ในเบื้องต้น 100 ล้านบาท และจากการตรวจค้น 15 จุด สามารถยึดรถยนต์หรูได้ จำนวน 4 คัน (อายัดทางทะเบียน) ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเป็นของนายชนินทร์ โดยต้องขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ครอบครองรถยนต์หรูดังกล่าว ว่าหากครอบครองอยู่ขอให้ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน ดีเอสไอโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนคดีฐานฟอกเงิน ส่วนประชาชนหากทราบเบาะแส ขอให้แจ้งมายังดีเอสไอได้ ท้้งทางเว็บไซต์ หรือสายด่วน 1202 ได้ทุกเวลา

รองโฆษก DSI กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษเพิ่มเติม รวม 10 ราย ขณะนี้ ดีเอสไอก็ได้ออกหมายเรียกทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยวันเวลาได้ เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของพยานด้วย และในระหว่างที่ ก.ล.ต. อายัดทรัพย์สินไว้ ทางดีเอสไอ จะได้เร่งตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ เพื่อให้ทันกรอบเวลาที่มีการอายัดทรัพย์สินไว้

อย่างไรก็ดี ทางดีเอสไอมั่นใจว่าจะสามารถสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องได้อีกจำนวนมาก ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใครเพิ่มเติม

กรณีนายชนินทร์ ที่มีข่าวออกนอกประเทศไปแล้วนั้น ทางดีเอสไอตรวจสอบข้อมูลกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พบว่า มีการเดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2566 ซึ่งเบื้องต้นทราบปลายทางว่าเป็นประเทศสิงคโปร์ แต่ปัจจุบันไม่แน่ใจว่ามีการเดินทางไปที่อื่นแล้วหรือไม่

ส่วนรายอื่น ๆ ทาง ก.ล.ต.ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ระงับการเดินทาง แต่ DSI จะระงับการเดินทางออกนอกประเทศได้ ก็ต่อเมื่อมีการออกหมายจับแล้วเท่านั้น

“คดีนี้ต้องขอเวลารวบรวมหลักฐาน เพราะว่าเป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อนค่อนข้างมาก มีหลักฐานเส้นทางการเงิน มีทุกอย่างที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก ดังนั้นการดำเนินการต้องเป็นไปอย่างรัดกุมและรอบคอบมากที่สุด อาจจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง

แต่ขอให้มั่นใจว่ากรมดำเนินการอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งตอนนี้เราก็เพิ่งรับเป็นคดีพิเศษมาไม่ถึง 1 เดือน”