
ทีทีบี (ttb) เริ่มให้ลูกค้าสแกนหน้ายืนยันตัวตน เมื่อทำธุรกรรมโอนเงิน-ปรับวงเงินตามเงื่อนไขผ่านแอป touch ตั้งแต่ 5 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป พร้อมแนะนำวิธีตรวจสอบสถานะ-อัพเดตภาพถ่ายใบหน้าด้วยตนเอง
วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) ประกาศยกระดับความปลอดภัยการทำธุรกรรมโอนเงิน-ชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น ttb touch โดยการสแกนใบหน้าทุกครั้งเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด

สำหรับธุรกรรมที่จะต้องมีการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม เป็นไปตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดไว้ ดังนี้
- โอนเงินหรือเติมเงินให้บุคคลอื่น หรือธนาคารอื่น ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง
- โอนเงิน หรือเติมเงินให้บุคคลอื่น หรือธนาคารอื่นตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปต่อวัน
- ปรับเพิ่มวงเงินทำธุรกรรมต่อวัน
เปิดวิธีเช็กสถานะ-อัพเดตข้อมูลใบหน้าด้วยตนเอง
ttb ระบุเพิ่มเติมว่า ลูกค้าของธนาคารสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตน และอัพเดตข้อมูลใบหน้าของตนเองได้ผ่านแอป ทีทีบี ทัช เวอร์ชั่นล่าสุด (เวอร์ชั่น 4.3.0 สำหรับ iOS และเวอร์ชั่น 4.3.2 สำหรับ Android) โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เลือกเมนู “อื่น ๆ” (สัญลักษณ์วงกลม 4 จุด) แล้วเลือก “ตั้งค่า”
- เลื่อนลงมาที่หัวข้อ “ความปลอดภัย” และเลือกเมนู “การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า”
- ระบบแสดงสถานะและระดับการยืนยันตัวตน โดยจะแบ่งเป็น 4 ระดับคือ
- ระดับ 1.3-มีการขอหลักฐานแสดงตน (บัตรประชาชน) ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลกับผู้ให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
- ระดับ 2.1-มีการแสดงตนที่สาขาหรือผ่านแอปพลิเคชั่น มีการตรวจสอบตัวตนบุคคล โดยเทียบกับรูปถ่ายหน้าบัตรประชาชน และตรวจสอบช่องทางติดต่อแล้ว แต่ใช้เครื่องอ่านบัตรเทียบข้อมูลผู้ใช้บริการกับข้อมูลในชิปเท่านั้น
- ระดับ 2.2-มีการแสดงตนที่สาขา หรือผ่านแอปพลิเคชั่น มีการตรวจสอบตัวตนบุคคลโดยเทียบกับรูปถ่ายหน้าบัตรประชาชน และตรวจสอบช่องทางติดต่อแล้ว และใช้เครื่องอ่านบัตรเทียบข้อมูลผู้ใช้บริการกับข้อมูลในชิป ร่วมกับการตรวจสอบข้อมูลผ่านทางออนไลน์ด้วย
- ระดับ 2.3-มีการแสดงตนที่สาขา หรือผ่านแอปพลิเคชั่น มีการตรวจสอบตัวตนบุคคลและช่องทางติดต่อแล้ว แต่ใช้เครื่องอ่านบัตรเทียบข้อมูลผู้ใช้บริการกับข้อมูลในชิป ร่วมกับการตรวจสอบข้อมูลผ่านทางออนไลน์ด้วย รวมถึงมีการเก็บข้อมูลใบหน้าแล้วแล้ว
- หากหน้าจอแสดงระดับการยืนยันตัวตนว่าอยู่ในระดับ 2.3 สามารถใช้การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าได้แล้ว
- หากหน้าจอแสดงระดับการยืนยันตัวตนว่าอยู่ในระดับ 2.1 ให้กดปุ่ม “ยกระดับการยืนยันตัวตน” กรอกรหัสหลังบัตรประชาชน และกดยืนยัน จากนั้นดำเนินการต่อตามขั้นตอนที่ปรากฏ
- หากหน้าจอแสดงระดับการยืนยันตัวตนว่าอยู่ในระดับ 1.3 ให้ติดต่อสาขา ทีทีบี ใกล้บ้าน พร้อมนำบัตรประชนชนไปติดต่อเพื่ออัพเดตข้อมูล

สำหรับการบังคับให้ลูกค้าสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมโอนเงินและปรับวงเงินนั้น เป็นไปตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ธนาคารและผู้ให้บริการ e-wallet ทุกราย ต้องยกระดับความปลอดภัยในการใช้งานแอปพลิเคชั่นธนาคาร หรือ Mobile Banking หลังเกิดกรณีที่มิจฉาชีพดูดเงินจนทำให้มีความเสียหายเกิดขึ้นจำนวนมากในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา
และนับตั้งแต่สิ้นเดือนเมษายนเป็นต้นมา แบงก์ต่าง ๆ รวมถึงผู้ให้บริการ e-wallet ก็เริ่มแจ้งให้ลูกค้าเข้าไปที่สาขา เพื่ออัพเดตข้อมูล และ ดำเนินการถ่ายภาพใบหน้าเก็บไว้แล้ว