MGC ค้าปลีกรถหรู รายได้ 1.2 หมื่นล้าน ครึ่งปีหลัง Backlog กว่าพันคัน

MGC

มิลเลนเนียม กรุ๊ป ค้าปลีกรถหรู กวาดรายได้ 6 เดือนแรกปีนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ครึ่งปีหลังยอดขายรถรอส่งมอบมากกว่า 1,000 คัน

วันที่ 11 สิงหาคม 2566 ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC ผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ Lifestyle Mobility Ecosystem ที่มุ่งตอบสนองไฟล์สไตล์การเดินทางอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2566 รายได้ของกลุ่มบริษัทยังคงเติบโตโดดเด่นทุกกลุ่มธุรกิจ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 6,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY)

รายได้ 12,275 ล้าน

จากปัจจัยการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจบริการหลังการขายและซ่อมบำรุงยานยนต์อิสระที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่กลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YOY ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2566 มีรายได้รวม 12,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และมีกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YOY

“ในเดือน เม.ย. 66 บริษัทย่อยได้จ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการงิน ที่ได้กู้ยืมมาเพื่อจ่ายค่าตอบแทนการเช่า (Upfront Payment) ให้แค่บริษัทที่เกี่ยวข้องกันสำหรับการเข้าทำสัญญาเช่า และเข่าช่วงที่ดิน และส่งปลูกสร้างระยะยาวของบริษัทย่อย เพื่อใช้เป็นศูนย์จัดจำหน่ายรถยนต์ของกลุ่มบริษัท

เงินกู้ยืมดังกล่าวได้กู้มาเมื่อเดือน ก.ย. 65 ทำให้ในไตรมาส 2 ปีนี้ มีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากสถบันการเงินที่เกิดขึ้นจากรายการนี้ประมาณ 27 ล้านบาท สำหรับงวด 6 เดือนปีนี้ และประมาณ 8 ล้นบาท สำหรับงวด 3 เดือน ขณะที่ไตรมาส 2/65 ไม่มีดอกเบี้ยงินกู้ยืมจากรายการนี้

ADVERTISMENT

ทั้งนี้หากไม่รวมรายการดังกล่าวจะส่งผลให้กลุ่มบริษัท มีกำไรสุทธิ สำหรับงวด 6 เดือนปีนี้อยู่ที่ 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% YOY และสำหรับไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YOY”

ดร.สัณหวุฒิกล่าวต่อว่า ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจของบริษัท ประกอบด้วย 1.ธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 14.8% จากยอดจำหน่ายรถยนต์ BMW เรือยอชต์ Azimut เรือ Chris-Craft และบิ๊กไบก์ Harley-Davidson

ADVERTISMENT

2.ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ มีรายได้เพิ่มขึ้น 13.6% จากการขยายศูนย์บริการและสามารถสร้างรายได้ประจำให้กลุ่มบริษัท (Recurring Income) อย่างต่อเนื่อง

3.ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ มีรายได้เพิ่มขึ้น 18.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

รถรอส่งมอบครึ่งปีหลังกว่าพันคัน

ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าจะเติบโตทุกกลุ่มตามแผนงานที่วางเอาไว้ โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากยอดขายรถที่รอส่งมอบ (Backlog) มากกว่า 1,000 คัน จากงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ อาทิ Rolls-Royce, BMW, Honda ฯลฯ

สำหรับธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ เตรียมรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2566 หลังเปิดตัวศูนย์ซ่อมสีและตัวถังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า TESLA ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างเป็นทางการจากบริษัทผู้ผลิต (TESLA Approved Body and Paint Service Center) เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า TESLA ในประเทศ

รวมทั้งการขยาย MMS Bosch Car Service and Tyre ทั้งด้านการรับรู้ และคุณภาพด้านการให้บริการ โดยมีแผนขยายเครือข่ายครบ 45 สาขา ภายในปี 2568

ส่วนธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับคาดว่าเติบโตโดดเด่น จากการได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำในการให้บริการรถเช่าในระยะยาวสำหรับใช้ภายในองค์กร (Corporate Fleet)

ส่วนธุรกิจให้บริการด้านการเงินครบวงจร Alpha X ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ยังเดินหน้าขยายกลุ่มลูกค้า Wealth Lending และ Ultra Private Lending ซึ่งเป็นกลุ่มที่ครอบครองเรือยอชท์และซูเปอร์คาร์เป็นหลัก

ขณะที่ Howden Maxi เตรียมเปิดตัวบริการประกันรูปแบบใหม่จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก รวมทั้งมุ่งขับเคลื่อนนโยบายตามหลัก ESG

“ช่วงไตรมาส 2 กลุ่มบริษัทได้เปิดตัวโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจร ‘บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้’ และ ‘มินิ มิลเลนเนียม ออโต้’ สาขาสุราษฎร์ธานี ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ เพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ เช่น หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, พังงา และอื่น ๆ”

โดยมีเป้าหมายการเป็นประตูเศรษฐกิจด้านตะวันตกของไทยสู่เอเชียใต้ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ “Southern Model” เพื่อมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ซิกท์ รถเช่า ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme Plus) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) แบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ขยายบริการรถเช่าระยะสั้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเพิ่มศักยภาพการให้บริการรถเช่า EV เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาคใต้เติบโต

“ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ยังโตต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ประกอบกับกลุ่มลูกค้าหลักของ MGC-ASIA เป็นกลุ่ม High Net Worth ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนน้อยกว่าลูกค้ากลุ่มอื่น” ดร.สัณหวุฒิกล่าว

ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังได้เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์ม Loyalty Program เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการต่างๆ ภายในระบบนิเวศทางธุรกิจของ MGC-ASIA แบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันของเรา ที่จะช่วยหนุนให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางเอาไว้