บลจ.ไทยพาณิชย์เสริมโครงการ “ออมเบอร์ 5” รับ Fund Back หลักหมื่น

SCBAM

บลจ.ไทยพาณิชย์ส่งเสริมโครงการ “ออมเบอร์ 5” พร้อมมอบหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) มูลค่า 500 บาท และสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการที่สามารถพิชิตภารกิจการออมกับโครงการได้สำเร็จ

วันที่ 6 กันยายน 2566 นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBAM”) เปิดเผยว่า SCBAM เล็งเห็นความสำคัญต่อการวางแผนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และมองว่าการลงทุนในกองทุนรวมเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่สามารถนำไปสู่เป้าหมายได้

SCBAM จึงได้มีภารกิจส่งเสริมผู้ลงทุนหน้าใหม่ และ/หรือ คนวัยทำงานที่ยังไม่เคยลงทุนในกองทุนรวมกับ SCBAM และมีความตั้งใจสร้างวินัยสะสมเงินออมและมีเป้าหมายการลงทุน ผ่าน “โครงการออมเบอร์ 5” ซึ่งจัดโดย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

โดย SCBAM พร้อมมอบหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) มูลค่า 500 บาท และสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการที่สามารถพิชิตภารกิจการออมกับโครงการได้สำเร็จ

นางสาวศุภรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการออมเบอร์ 5” เป็นโครงการที่เสริมสร้างให้คนไทยเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมที่สามารถเป็นทางเลือกในการออมจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ซึ่งการเข้าร่วม “โครงการออมเบอร์ 5” กับทาง SCBAM นั้นสามารถทำได้ไม่ยาก

โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการต้องเป็นนักลงทุนที่ยังไม่เคยมีบัญชีกองทุนของ SCBAM โดยสามารถเปิดบัญชีกองทุนครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชั่น SCBAM Fund Click และนักวางแผนการลงทุนอิสระ (IIP) ของ SCBAM และ SCB Easy หรือช่องทางให้บริการอื่น ๆ ของธนาคารไทยพาณิชย์ และเลือกลงทุนในหนึ่งกองทุนรวมด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 5,000 บาท ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

ซึ่ง SCBAM มีกองทุนร่วมรายการ(**) ที่หลากหลายและครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก จึงสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุนได้มากที่สุด จากนั้นร่วมสร้างวินัยการออมแบบสม่ำเสมอ (Dollar-Cost-Average : “DCA”) เดือนละ 500 บาทขึ้นไป 12 เดือนต่อเนื่องกัน ในกองทุนเดียวกัน ผ่านช่องทางเดียวกัน ซึ่งสามารถเริ่มลงทุนสะสมครั้งแรกได้ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566

โดยผู้ลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุนทั้งหมดจนสิ้นสุดระยะเวลาส่งเสริมการขาย หรือวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567

“การออมเงินผ่านกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ใช้เงินลงทุนน้อย และสะดวก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจการลงทุน เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้ สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมโดยทั่วไปแล้ว สามารถเลือกลงทุนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งหากเริ่มสร้างวินัยเก็บออมและนำมาลงทุนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว จะทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน” นางสาวศุภรัตน์กล่าว