หุ้นไทยอ่อนตัว 1,390-1,380 จุด ราคาน้ำมันดิบทรุดแรง 3% เอฟเฟ็กต์กลุ่มพลังงาน

หุ้น

บล.กรุงศรีประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ อ่อนตัวแนวรับ 1,390-1,380 จุด แม้ตลาดได้ปัจจัยบวกสถานการณ์สู้รบดูผ่อนคลายลง หลังหลายฝ่ายเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยให้อิสราเอลชะลอการโจมตีฉนวนกาซาเพื่อเจรจาการทูตปล่อยตัวประกันรอบใหม่กับกลุ่มฮามาส ส่งผลบอนด์ยีลด์สหรัฐอ่อนตัวลง เป็นบวกกับการลงทุน แต่ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลง 3% เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน กดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

วันที่ 24 ตุลาคม 2566 นายอาทิตย์ จันทร์สว่าง นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่า เมื่อวันศุกร์ดัชนี SET Index ร่วง 24 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ กังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี และกังวลเหตุสู้รบในอิสราเอลขยายวงกว้าง

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,390/1,380 จุด แม้ภาวะตลาดได้ปัจจัยบวกสถานการณ์สู้รบดูผ่อนคลายลง หลังหลายฝ่ายเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยให้อิสราเอลชะลอการโจมตีฉนวนกาซาเพื่อเจรจาการทูตปล่อยตัวประกันรอบใหม่กับกลุ่มฮามาส

ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งเป็นบวกกับการลงทุน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงราว 3% เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

ประเด็นสำคัญวันนี้คือ 1.กลุ่มธนาคารสรุปงบฯไตรมาส 3/2566 พบว่า BBL, KBANK และ KTB เด่น แต่ SCB KKP น่าผิดหวัง โดย 7 ธนาคาร มีกำไรสุทธิรวมที่ 5 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.2% QOQ แต่เพิ่มขึ้น 13.3% YOY ส่วนใหญ่มีกำไรดีเกินคาด โดย BBL มีกำไรสุทธิ มากที่สุด 1.13 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% QOQ และ 48% YOY ขณะที่ SCB และ KKP น่าผิดหวังมีกำไรสุทธิหดตัวทั้ง (QOQ และ YOY) และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้

Advertisment

2.น้ำมันดิบร่วงแรงคาดหวังการเจรจาทางการทูตจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยมีรายงานว่าคณะผู้นำของสหรัฐ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี เดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

ขณะที่อิสราเอลชะลอการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินในการโจมตีฉนวนกาซาเพื่อเปิดช่องทางการเจรจาทางการทูตสำหรับการปล่อยตัวประกัน ประเด็นนี้กดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.59 เหรียญ (-2.9%) ปิดที่ 85.49 เหรียญ/บาร์เรล

3.วันนี้ติดตามดัชนี PMI เบื้องต้นของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักชี้วัดความแข็งแกร่งของกิจกรรมเศรษฐกิจ เบื้องต้น Consensus คาดดัชนี PMI ภาคการผลิต (เบื้องต้น) ของกลุ่มยูโรโซน เดือน ต.ค. จะค่อย ๆ ดีขึ้นสู่ระดับ 43.7-43.8 จาก 43.4 ในเดือน ก.ย.

แต่ในฝั่งของสหรัฐคาดลดลงสู่ระดับ 49.5 จาก 49.8 ในเดือน ก.ย. (ต่ำกว่า 50 สะท้อนกิจกรรมการผลิตยังหดตัว)

Advertisment

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ CHG (ปิด 3.20 บาท ซื้อ/เป้า 3.50 บาท) คาดมีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% QOQ จากแรงหนุนของจำนวนผู้ป่วยในประเทศที่สูงขึ้นตามการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ อาทิ ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่ และมือเท้าปากในเด็ก

BGRIM (ปิด 22.40 บาท ซื้อเก็งกำไร/เป้า 25.25) Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบและบอนด์ยีลด์สหรัฐที่เริ่มชะลอตัว ขณะที่ราคาร่วงแรงส่งผลให้ Indicator ทางด้านเทคนิค (RSI) เข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป (Oversold)